รายงานล่าสุดของสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ระบุว่า เหตุอาชญากรรมรุนแรงในสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเฉพาะในกรณีของเหตุการณ์ฆาตกรรมและข่มขืน
รายงาน FBI Crime in the Nation ที่เปิดเผยออกมาในวันจันทร์ชี้ว่า โดยรวมแล้ว อาชญากรรมรุนแรงในสหรัฐฯ ลดลง 3% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022 โดยอัตราการเกิดเหตุฆาตกรรมและการฆ่าคนตายลดลงถึง 11.6% ขณะที่ เหตุข่มขืนลดลงกว่า 9%
แต่สถิติการปล้นและการทำร้ายรุนแรงนั้นลดลงเล็กน้อย
ในส่วนของอาชญกรรมทรัพย์สิน ซึ่งรวมความถึง การลักทรัพย์ด้วย ลดลงราว 2.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การโจรกรรมยานยนต์พุ่ง 12.6%
เจ้าหน้าที่ FBI ซึ่งทำหน้าที่แถลงรายงานให้กับผู้สื่อข่าว อธิบายว่า การปรับลดลงของสถิติเหตุฆาตกรรมนั้นมีความชัดเจนมาก โดยการลดลงถึง 11.6% นั้นเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว
โดยรวมแล้ว อัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงทั้งหมดในปี 2023 คือ 363.3 ครั้งต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งลดลงจากระดับ 377.1 ครั้งต่อประชากร 100,000 คนในปี 2022
รายงานดังกล่าวรวบรวมข้อมูลมาจากหน่วยงานรักษากฎหมายในระดับท้องถิ่นและระดับรัฐทั่วประเทศกว่า 16,000 แห่งและตรวจสอบแนวโน้มย้อนกลับไปถึงปี 2021 ที่มีการปรับลดลงของสถิติเหตุฆาตกรรมที่พุ่งขึ้นในปี 2020 หรือระหว่างการเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19
อย่างไรก็ดี อัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงนั้นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อครั้งพุ่งสูงสุดในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990
ขณะเดียวกัน การเกิดอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง (hate crime) และจำนวนของเหยื่อจากอาชญากรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022 แม้ว่า เจ้าหน้าที่ FBI จะระบุว่า การเพิ่มขึ้นนั้นอาจมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของหน่วยรักษากฎหมายซึ่งทำหน้าที่รายงานข้อมูล hate crime
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ FBI ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มและภาพรวมการลดลงของอาชญากรรมรุนแรงว่าจะดำเนินต่อไปในปี 2024 หรือไม่ แม้ว่า รายงานจาก Council on Criminal Justice (CCJ) เมื่อเดือนกรกฎาคมจะระบุว่า จำนวนเหตุอาชญากรรมรุนแรงยังคงจะเดินหน้าลดลดต่อไป
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น