ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศบางคนคาดการณ์ว่า จะเกิดสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในเอเชีย ในขณะที่ จะมีฝนตกชุกมากขึ้นในสหรัฐฯ โดยการคาดการณ์ดังกล่าวเชื่อมโยงกับผลกระทบของกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เรียกว่า เอลนีโญ (El Nino) ซึ่งคาดว่า จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ปรากฏการณ์เอลนีโญ คือ สภาพการณ์ที่อุณหภูมิของพื้นผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกและตอนกลางอุ่นขึ้น โดยเหตุการณ์นี้มักทำให้เกิดสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งในแถบเอเชียและออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนใต้ของสหรัฐฯ และทางตอนใต้ของอเมริกาใต้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศกล่าวว่า เอลนีโญ มีแนวโน้มที่จะทำให้การผลิตข้าวสาลีในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลกลดลง และยังมีการคาดการณ์ว่า เอลนีโญจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันปาล์มและการปลูกข้าวในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทยด้วย
คริส ไฮด์ (Chris Hyde) นักอุตุนิยมวิทยาที่ Maxar ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ กล่าวว่า สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ ภาวะแล้งในออสเตรเลียที่ยาวกว่าที่เคย และเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงเดือนสิงหาคมเป็นอย่างเร็ว ขณะที่ ภาพรวมของฤดูกาลในอินเดียก็แสดงให้เห็นว่า จะมีลมมรสุมอ่อนแรงกว่าปกติทั่วทั้งประเทศ และจะปกคลุมไปจนถึงปากีสถานด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การลดลงของการผลิตธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมันในเอเชียที่เป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับราคาอาหารที่สูงขึ้นสำหรับประเทศที่เปราะบางที่สุดในโลก และแม้ว่าปรากฏการณ์นี้จะเพิ่มผลผลิตพืชผลในอเมริกา แต่ผลกระทบในเอเชียก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดอาหารโลกได้อยู่ดี
ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีเพิ่งลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปีครึ่ง ส่วนราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองก็ลดลงมาตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน และโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุปทานของโลก
ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ฝนตามฤดูกาลหรือที่เรียกว่ามรสุมที่เกิดขึ้นทั่วเอเชียใต้มีแนวโน้มที่จะล่าช้าไปบ้างในปีนี้ โดยปรากฏการณ์เอลนีโญอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวและเมล็ดพืชน้ำมันอีกด้วย
โอ พี สรีจิต (O.P. Sreejith) นักวิทยาศาสตร์ของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียบอกกับรอยเตอร์ว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมและดำเนินต่อไปในครึ่งหลังของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม สรีจิตกล่าวว่า อินเดียอาจโชคดีกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่อ่อนแรง เนื่องจาก อุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้นในมหาสมุทรอินเดียและลมตะวันตกเฉียงใต้อาจทำให้ฝนตกมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน สภาพอากาศที่แห้งแล้งในสหรัฐฯ และอาร์เจนตินาทำให้ผลผลิตข้าวสาลีและถั่วเหลืองลดลงในปีนี้ แต่ฝนที่ตกหนักในช่วงที่สองของฤดูกาลก็อาจส่งผลดีต่อพืชผล แม้ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญด้วย
ทั้งนี้ นักอุตุนิยมวิทยามีความเห็นที่ขัดแย้งกันอยู่เกี่ยวกับกรณีกระแสน้ำในมหาสมุทรจะเปลี่ยนแปลงเป็นเอลนีโญเร็วเพียงใด และเรื่องนี้จะส่งผลต่อสภาพอากาศของสหรัฐฯ อย่างไร แต่การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้น่าจะสิ้นสุดลงภายในช่วงระยะเวลาสำคัญของการปลูกข้าวโพดและถั่วเหลือง
อย่างไรก็ดี เดวิด โทลเลอร์ริส (David Tolleris) ผู้บริหารสำนักพยากรณ์อากาศ WxRisk คิดว่า สภาพการเจริญเติบโตของพืชผลเหล่านั้นน่าจะค่อนข้างดีในปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศกล่าวทิ้งท้ายว่า เอลนีโญมีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มความชื้นในดินในที่ราบของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทอดยาวผ่านตอนกลางของประเทศ และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวที่ดีขึ้นมากในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึงนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
