เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโรกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอยยาวนานถึง 18 เดือน หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่นักวิเคราะห์หลายคนระบุว่าวิกฤติการณ์การเงินของยุโรปจะยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ
หลังจากตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินยูโรหรือยูโรโซนติดลบมา 6 ไตรมาสติดต่อกัน ในที่สุดตัวเลขดังกล่าวก็กลับเป็นบวกอีกครั้ง โดยอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ระดับ 0.3% แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่เริ่มกระเตื้องขึ้น
ปอร์ตุเกสคือประเทศในกลุ่มยูโรโซนที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดในไตรมาสที่ 2 คือเพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งย้อนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ปอร์ตุเกสคือหนึ่งในประเทศที่ต้องรับเงินช่วยเหลือกอบกู้สถานะการเงินจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF
อย่างไรก็ตาม ประเทศที่สามารถฉุดดึงกลุ่มยูโรโซนให้ขึ้นจากภาวะถดถอยได้อย่างแท้จริง คือเสาหลักของกลุ่มยูโรโซนอย่างเยอรมนีและฝรั่งเศส โดย ศก.เยอรมนีเติบโต 0.7% ขณะที่ ศก.ฝรั่งเศส เติบโต 0.5% ในไตรมาสที่แล้ว ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขที่ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้
คุณ Daragh Maher เจ้าหน้าที่วางแผนของธนาคาร HSBC ในกรุงลอนดอน ชี้ว่าการที่ประเทศที่เป็นแกนกลางดังกล่าวก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เสมือนเป็นการสนับสนุนและให้กำลังใจประเทศอื่นๆในกลุ่มทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ถึงกระนั้นนักวิเคราะห์เชื่อว่าวิกฤตการณ์การเงินของกลุ่มยูโรโซนยังไม่จางหายไปเสียทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศแถบทางใต้ของยุโรป เช่น สเปน อิตาลีและกรีซ โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสเปนลดลง 0.1% ในไตรมาสที่ 2 ส่วน ศก.อิตาลีหดตัวลง 0.2% ขณะที่กรีซซึ่งถือเป็นประเทศที่ประสบปัญหาการเงินหนักที่สุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบ 4.6%
คุณ Joe Rundle ประธานบริษัทการเงิน ETX Capital ในกรุงลอนดอนชี้ว่า ศก.เยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังเติบโตอีกครั้ง แต่ทางภาคใต้ของยุโรปยังคงไม่ฟื้นตัว จึงยังมีความแตกต่างกันเป็น 2 ขั้วในกลุ่มยูโรโซน ในขณะที่เยอรมนีเป็นผู้ควบคุมการกำหนดมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนั้นจึงเชื่อว่ามีปัญหาการเงินอีกมากที่กลุ่มยูโรโซนต้องเร่งแก้ไข
ทางด้านคุณ Chantal Hughes โฆษกหญิงของสหภาพยุโรป กล่าวแสดงความยินดีต่อตัวเลขทางศก.ล่าสุดของยุโรป แต่เชื่อว่ายังไม่ใช่เวลาที่ควรเฉลิมฉลองแต่อย่างใด เนื่องจากยังมีอุปสรรคหลายอย่างรออยู่ และตัวเลขการเติบโตก็ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ศก.หลายส่วนของยูโรโซนยังคงเปราะบาง
รายงานจาก Henry Ridgewell / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
