เวลานี้หลายเมืองใหญ่ในยุโรป รวมทั้ง กรุงปารีส และกรุงลอนดอน กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนระลอกที่สองในช่วง 1 เดือน ทำให้อุหภูมิเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับระดับอุณหภูมิสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้
ในวันพฤหัสบดี อุณหภูมิในกรุงปารีสเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 40.6 C สูงกว่าสถิติเดิมที่ 40.4 C เมื่อปี ค.ศ. 1947 และคาดว่าจะสูงขึ้นอีก
ส่วนที่กรุงลอนดอน อุณหภูมิขึ้นไปแตะหลัก 39 C พอๆ กับหลายเมืองในเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ที่สูงราว 40 C เช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์หลายคนเตือนว่า นี่อาจเป็นระดับอุณหภูมิที่ร้อนจนกลายเป็นเรื่องปกติในหลายประเทศทั่วโลกต่อจากนี้ ซึ่งจะสร้างปัญหาใหญ่ต่อยุโรปเนื่องจากบ้านเรือนส่วนใหญ่ที่นั่นไม่มีเครื่องปรับอากาศที่ช่วยให้ความเย็น
ด้วยเหตุนี้จึงพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากลงไปแช่น้ำตามน้ำพุต่างๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และคนไร้บ้านที่ต้องเผชิญคลื่นความร้อนจัด
ฝรั่งเศสเคยเผชิญคลื่นความร้อนครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อ 16 ปีก่อน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 15,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในอาคารที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
ทางการฝรั่งเศสคาดว่าคลื่อนความร้อนในครั้งนี้ทำให้ระดับอุณหภูมิสูงกว่าเมื่อปี ค.ศ.2003 ราว 2 องศาเซลเซียส ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 2 ล้านคน
ส่วนที่เนเธอร์แลนด์ รัฐบาลเตือนให้ประชาชนระวังหมอกควันพิษที่มาพร้อมกับอากาศร้อน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น กรุงอัมสเตอร์ดัม และเมืองรอตเตอร์ดัม