ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicolas Sarkozy กับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel กล่าวภายหลังร่วมประชุมกันที่กรุงปารีสในวันจันทร์ว่า ต้องการให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศเห็นด้วยกับการอนุญาตให้ศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปเป็นผู้ตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาลแต่ละประเทศ และหากประเทศใดฝ่าฝืนกฎเกณฑ์การใช้จ่ายต้องถูกลงโทษโดยไม่มีเงื่อนไข เป้าหมายของข้อตกลงที่ว่านี้คือการลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและลดเงินทุนช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ประธานาธิบดี Sarkozy ระบุว่าฝรั่งเศสและเยอรมนีจำเป็นต้องร่วมมือกันเป็นแนวหน้าแก้ไขวิกฤติการณ์การเงินและปัญหาหนี้ของยุโรป และว่าการไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวจะทำให้ยุโรปและเงินยูโรต้องเผชิญความเสี่ยงครั้งใหญ่ ทางด้านนายกรัฐมนตรี Merkel เน้นย้ำเช่นกันว่าขณะนี้ยุโรปกำลังเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกอบกู้ความมั่นใจของนักลงทุนและประชาคมระหว่างประเทศที่มีต่อยุโรปให้กลับคืนมาอีกครั้ง
ผู้นำทั้งสองยังกล่าวด้วยว่าได้เห็นพ้องกันแล้วว่ากลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 17 ประเทศควรพบหารือกันทุกเดือนเพื่อหาทางรับมือวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และควรนำกฎเกณฑ์ใหม่มาใช้ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยแผนที่ว่านี้จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมสหภาพยุโรปในวันพฤหัสบดี
อย่างไรก็ตาม ทั้งประธานาธิบดี Sarkozy และนายกรัฐมนตรี Merkel ต่างปฏิเสธข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญการเงินบางคนที่ต้องการให้นำพันธบัตรยูโรออกขายเพื่อช่วยกู้สถานะการเงินของประเทศที่กำลังประสบปัญหาหนี้ด้วยการทำให้อัตราดอกเบี้ยของประเทศเหล่านั้นต่ำลง เยอรมนีกับฝรั่งเศสนั้นมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปและต่างเกรงว่าการออกพันธบัตรยูโรจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของประเทศตนสูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน
ถึงแม้บรรดาผู้ส่วนใหญ่ในยุโรปต่างกำลังผลักดันให้มีคณะกรรมาธิการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของประเทศสมาชิกจากส่วนกลาง แต่ทั้งประธานาธิบดี Sarkozy และนายกรัฐมนตรี Merkel เองรวมทั้งผู้นำคนอื่นๆต่างใช้ความระมัดระวังเต็มที่เพื่อไม่ให้คณะกรรมาธิการดังกล่าวเข้ามามีอำนาจก้าวก่ายการตัดสินใจด้านการเงินของประเทศตนมากเกินไป โดยเฉพาะประธานาธิบดี Sarkozy นั้นกำลังจะเผชิญการเลือกตั้งในเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าการยินยอมโอนอำนาจการควบคุมค่าใช้จ่ายของรัฐบาลไปยังสหภาพยุโรปอาจส่งผลต่อการหาเสียงของประธานาธิบดี Sarkozy ได้เช่นกัน
