ลิ้งค์เชื่อมต่อ

โฉมหน้าธุรกิจท่องเที่ยวและการบินของยุโรปอาจไม่เหมือนเดิมหลังโควิด-19


A statue wears a mask to encourage people to protect themselves against the spread of the coronavirus along the Trocadero square close to the Eiffel Tower Saturday, May 2, 2020, in Paris. France continues to be under an extended stay-at-home order until M
A statue wears a mask to encourage people to protect themselves against the spread of the coronavirus along the Trocadero square close to the Eiffel Tower Saturday, May 2, 2020, in Paris. France continues to be under an extended stay-at-home order until M
please wait

No media source currently available

0:00 0:04:38 0:00

เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลอังกฤษยืนยันเรื่องแผนที่จะกำหนดให้ผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคน ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับประเทศ หรือผู้เดินทางเข้าไปทำธุรกิจในอังกฤษต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน

โดยตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ทุกคนซึ่งเดินทางไปยังอังกฤษจะต้องแจ้งที่อยู่สำหรับการกักตัวเองต่อเจ้าหน้าที่ และอาจถูกปรับสูงถึง 40,000 บาทหากฝ่าฝืนกฏเรื่องนี้

แต่ Airline UK สมาคมซึ่งเป็นตัวแทนสายการบินของอังกฤษได้คัดค้านเรื่องนี้ โดยชี้ว่ามาตรการดังกล่าวจะทำลายการเดินทางระหว่างประเทศ ทั้งที่ออกจากและไปสู่อังกฤษโดยสิ้นเชิง และจะสร้างความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ต่ออุตสาหกรรมการบินรวม ทั้งต่อเศรษฐกิจของอังกฤษโดยส่วนรวมด้วย

สมาคม Airline UK เตือนด้วยว่า เรื่องนี้จะทำให้โอกาสการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินของอังกฤษเกิดขึ้นไม่ได้เลย

เมื่อเดือนมีนาคม Flybe สายการบินในประเทศรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษต้องประกาศล้มละลาย และขณะนี้สายการบิน Virgin Atlantic ของเซอร์ริชาร์ด แบรนสัน ก็กำลังขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอังกฤษและจากนักลงทุนอยู่ ส่วน British Airways ก็มีแผนจะลดพนักงานลงกว่า 25% เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาจากโรคติดต่อโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อการเดินทางและธุรกิจการบินนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในอังกฤษเท่านั้น เพราะ Lufthansa สายการบินใหญ่ที่สุดของยุโรปก็กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อไม่ให้ต้องล้มละลาย และ Airfrance-KLM ก็เพิ่งได้รับการค้ำประกันเงินกู้จากรัฐบาลฝรั่งเศสมูลค่าถึง 7,600 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 2 แสน 4 หมื่นล้านบาทเช่นกัน

ในขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า อุตสาหกรรมการบินของยุโรปจะต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะฟื้นตัว และช่วงเวลารวมทั้งขอบข่ายของการฟื้นตัวก็จะขึ้นอยู่กับมาตรการเรื่องการเดินทางที่รัฐบาลของบางประเทศ เช่น อังกฤษ นำมาใช้ว่าจะเข้มงวดแค่ไหนนั้น ความกังวลอีกด้านหนึ่งก็คือ ประเทศต่าง ๆ ของยุโรป อาจใช้มาตรการเรื่องการเดินทางซึ่งมีความเข้มงวดหรือย่อหย่อนไม่เท่ากัน

ตัวอย่างเช่น หลายประเทศในกลุ่มประเทศวีซ่าเชงเก้น ไม่นำพาต่อคำเรียกร้องของรัฐบาลกลางสภาพยุโรปที่กรุงบรัสเซล และกำหนดเงื่อนไขเรื่องการเดินทางข้ามพรมแดนของตนเอง เป็นต้นว่ากลุ่มประเทศย่านทะเลบอลติกได้ประกาศจะกลับมาเปิดเสรีเรื่องการเดินทางข้ามพรมแดนซึ่งกันและกันตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ส่วนออสเตรียก็ได้หารือเรื่องการเปิดพรมแดนกับสาธารณรัฐเช็กและเยอรมนี เป็นต้น

ความพยายามเปิดพรมแดนในเฉพาะบางประเทศนี้ ทำให้ Ylva Johansson เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเรื่องกิจการภายในของสหภาพยุโรป เตือนว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปกำลังเลือกปฏิบัติต่อประเทศสมาชิกรายอื่น และเป็นมาตรการที่ขาดการประสานงานและไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันสำหรับสหภาพยุโรปด้วย

ความลักลั่นในนโยบายเปิดพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป รวมทั้งมาตรการเพื่อควบคุมผู้เดินทางเข้าประเทศที่หนักเบาไม่เท่ากันนี้ ไม่ได้ช่วยต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบินของยุโรปซึ่งกำลังมีปัญหาหนักอยู่แล้วอย่างแน่นอน

Laurent Duc ประธานสมาพันธ์ธุรกิจโรงแรมของฝรั่งเศส เชื่อว่าธุรกิจท่องเที่ยวของยุโรปจะยังคงปั่นป่วนต่อไปอย่างน้อยอีก 18 เดือน และหลายคนก็เชื่อว่าธุรกิจท่องเที่ยวของยุโรปหลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นได้แล้วจะมีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากการที่สายการบินราคาประหยัดต่าง ๆ ต้องเลิกกิจการไป และจะทำให้โอกาสการท่องเที่ยวในยุโรปถูกจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มผู้มีฐานะดีที่สามารถจ่ายราคาแพงได้เท่านั้น

นักวิเคราะห์ด้านธุรกิจท่องเที่ยวคาดว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโลกปีนี้อาจต้องขาดทุนถึง 1,100 ล้านดอลลาร์ และเชื่อว่าจะทำให้ผู้ประกอบอาชีพในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ต้องตกงานถึงกว่า 100 ล้านคนด้วยกัน

XS
SM
MD
LG