สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู เตรียมเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อกองทัพเมียนมา สืบเนื่องจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อ้างอิงจากนักการทูตหลายคนและเอกสารภายในที่รอยเตอร์รวบรวมมาได้
มาตรการดังกล่าวจะมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจซึ่งสร้างรายได้หรือจัดหาการสนับสนุนทางการเงินให้แก่กองทัพเมียนมาและบรรดาผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเมียนมา โดยเอกสารชี้ว่าอาจมีการหารือและตกลงกันในการประชุมระดับรัฐมนตรีของอียูในวันที่ 22 มีนาคมนี้
อียูคว่ำบาตรการขายอาวุธให้เมียนมามานานหลายสิบปี และใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อผู้นำทหารเมียนมาบางคนมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2018 แต่มาตรการลงโทษชุดใหม่นี้จะถือเป็นการตอบสนองครั้งสำคัญหลังจากที่มีการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อต้นปีนี้
คาดว่าธุรกิจที่เป็นเป้าหมายหลักของการลงโทษครั้งนี้ คือ Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ที่มีธุรกิจมากมายตั้งแต่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม ธนาคาร และบริษัทโทรคมนาคม ถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับรัฐบาลเมียนมา ซึ่งนักลงทุนและธนาคารในยุโรปจะถูกห้ามทำธุรกรรมกับสองเครือบริษัทนี้
นอกจากนี้ คาดว่าสหภาพยุโรปยังจะอายัดทรัพย์สินของผู้นำทหารและตำรวจเมียนมาที่สั่งการปราบปรามผู้ประท้วงในเมืองต่าง ๆ และห้ามการเดินทางของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นและครอบครัวเข้าไปในยุโรป โดยเอกสารชี้ว่ากำลังมีการพิจารณารายชื่อผู้ที่จะถูกลงโทษเหล่านี้ว่ามีใครบ้าง
