เมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยงานกำกับควบคุมเรื่องยาของสภาพยุโรปคือ European Medicines Agency หรือ EMA เตือนว่า ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 มีส่วนอย่างมากต่อการระบาดระลอกที่สี่ในยุโรปขณะนี้ และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเร่งปิดช่องว่างดังกล่าวลง
โดยนาย Marco Cavaleri ผู้รับผิดชอบด้านภัยคุกคามทางชีวภาพของหน่วยงาน EMA กล่าวว่า ชาวยุโรปที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกินกว่า 50 ปี มีโอกาสต้องเข้าโรงพยาบาล มีอาการป่วยจากโควิด-19 รุนแรง รวมทั้งต้องอยู่ในห้องไอซียูและเสียชีวิตด้วย และได้เร่งเร้าให้ประเทศสมาชิกซึ่งยังมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำจนยอมรับไม่ได้ เร่งปิดช่องว่างเรื่องนี้ และทำให้แน่ใจว่าผู้คนมากที่สุดได้รับวัคซีนโควิด-19
นาย Marco Cavaleri กล่าวเสริมด้วยว่า ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ยังคงแสดงว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ และว่า หน่วยงาน EMA เสนอแนะให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นหลังจากหกเดือนไปแล้ว แต่ประเทศสมาชิกอาจตัดสินใจให้วัคซีนเข็มกระตุ้นนี้เร็วกว่าได้
ส่วนที่เยอรมนี สภาล่างหรือสภา Bundestag ของเยอรมนีมีมติอนุมัติมาตรการเพื่อรับมือกับโควิด-19 เพิ่มเติมหนึ่งวัน หลังจากที่สถาบัน Robert Koch Institute for Disease Control and Prevention ของประเทศ เตือนว่ามีโอกาสจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ”terrible Christmas“ หรือ ”คริสต์มาสอันน่าสะพรึงกลัว” ได้ ถ้าไม่มีการใช้มาตรการเพิ่มเติม
โดยมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับโควิด-19 ของเยอรมนีที่ว่านี้ รวมถึงการกำหนดให้ผู้คนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน หรือมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบในสถานที่ทำงานหรือในระบบขนส่งมวลชน
การตัดสินใจใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นของสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีที่ว่านี้ มีขึ้นหลังจากที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มอีก 65,371 รายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเยอรมนีเกิน 60,000 รายต่อวันนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการระบาดเป็นต้นมา