ความตึงเครียดจากการประท้วงในรัฐอุตตรประเทศทางเหนือของอินเดียเริ่มรุนแรงขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ทำให้ชาวนาเสียชีวิต 4 ราย
ผู้ประท้วงกล่าวหาว่า ชาวนาสองคนถูกขบวนรถของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมาตุภูมิ อาเจย์ คูมร์ มิชรา ชนและวิ่งทับจนเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีบุตรชายของ รมช.ผู้นั้นเป็นคนขับรถคันที่พุ่งใส่กลุ่มผู้ประท้วง
ทางด้าน รมช.มิชรา ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่าบรรดาผู้ประท้วงพากันปาก้อนหินใส่ขบวนรถจนทำให้คนขับสูญเสียการควบคุมรถยนต์จนพุ่งเข้าใส่ฝูงชน
ทางตำรวจกล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาหลักฐานว่าบุตรชายของ รมช.มิรา อยู่ในรถคันที่ชนผู้ประท้วงด้วยหรือไม่ พร้อมระบุว่ามีสมาชิกพรรคภาราติยาจานาตะเสียชีวิตสามคน รวมทั้งคนขับรถอีกหนึ่งคน
บรรดาเกษตรกรในรัฐอุตตรประเทศชุมนุมประท้วงมานานหลายเดือน เพื่อต่อต้านนโยบายปฏิรูปกฎหมายการเกษตร ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างผู้นำเกษตรกรกับรัฐบาลอินเดีย
รัฐอุตตรประเทศคือหนึ่งในสามรัฐทางเหนือของอินเดียที่กำลังมีการประท้วงครั้งใหญ่ของบรรดาเกษตรกร เพื่อให้มีการยกเลิกหรือถอดถอนกฎหมายสามฉบับที่ผ่านการรับรองเมื่อเดือนกันยายน
กฎหมายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อปฏิรูปกฎหมายฉบับเก่าที่ชาวนาขายผลิตผลส่วนใหญ่ผ่านตลาดขายส่งของทางการด้วยราคาที่กำหนดโดยรัฐ โดยตั้งเป้าเปิดช่องทางให้ชาวนาสามารถขายผลิตผลแก่บริษัทเอกชนได้
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ระบุว่ากฎหมายฉบับใหม่เป็น “กฎหมายฉบับประวัติศาสตร์” ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวนา เพิ่มศักยภาพในการผลิต และทำให้ชาวนาเป็นอิสระจากพ่อค้าคนกลาง ผู้สนับสนุนกฎหมายฉบับดังกล่าวยังเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน และทำให้ภาคการเกษตรของอินเดียทันสมัยขึ้น
แต่กลุ่มชาวนาระบุว่า กฎหมายทั้งสามฉบับนี้เปิดทางให้มีการขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแก่บริษัทเอกชน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อรายได้ของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาจะไม่ได้ราคาประกันจากทางรัฐบาล โดยที่ผ่านมารัฐบาลจะเป็นผู้ซื้อธัญพืช เช่น ข้าว ข้าวสาลี ด้วย “ราคาสนับสนุนอย่างต่ำ”
ชาวนาอินเดียกังวลว่า การไม่มีภาครัฐควบคุมกลไกตลาดอาจทำให้พวกเขามีอำนาจต่อรองกับบริษัทใหญ่เพียงเล็กน้อย ทำให้พวกเขาอาจต้องขายผลิตผลแก่บริษัทใหญ่ด้วยราคาที่ต่ำลง และทำให้รายได้ของชาวนาในชนบทลดน้อยลงไปอีก สวนทางกับความต้องการให้ราคาผลิตผลสูงขึ้น
ทั้งนี้ ประชากรอินเดียเกือบครึ่งดำรงชีวิตอยู่กับภาคการเกษตร อย่างไรก็ตาม ภาคการเกษตรกลับมีมูลค่าเพียง 17 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีอินเดีย อีกทั้งชาวนาส่วนใหญ่มีที่ดินขนาดเล็ก มีรายได้ต่ำและมักมีหนี้