คุณหมอ Ansgar Cheng เจ้าของคลีนิคทำฟันแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ แนะนำตัวว่าเขาเป็นทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟันและบูรณะฟัน โดยเฉพาะในส่วนของอาการที่เกี่ยวกับข้อต่อกระดูกขากรรไกร temporomandibular joint disorder หรือที่เรียกว่า TMJ ซึ่งเป็นอาการอักเสบที่เกิดบริเวณข้อต่อที่เชื่อมระหว่างกระดูกขากรรไกรกับกระโหลกศรีษะ รวมถึงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความเจ็บปวดเวลาเคี้ยวอาหาร คุณหมอ Cheng ระบุว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อาการ TMJ ในกลุ่มคนเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เชื่อว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารประเภทแฮมเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่เกินไป
ทันตแพทย์ชาวสิงคโปร์ผู้นี้ชี้ว่า โดยเฉลี่ยแล้วชาวเอเชียมีร่างกายขนาดเล็กกว่าชาวตะวันตก จึงอาจกล่าวได้ว่าความกว้างของขากรรไกรก็มีขนาดเล็กกว่าด้วย การที่คนเอเชียพยายามอ้าปากให้กว้างที่สุดเพื่อรับประทานแฮมเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่พิเศษ จึงอาจส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อขากรรไกรค้างหรือเคลื่อนได้ ตลอดจนอาจทำลายกระดูกอ่อนที่เป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างกระดูกขากรรไกรสองชิ้นได้เช่นกัน ซึ่งนั่นจะเริ่มส่งผลให้เกิดอาการเจ็บแปลบบริเวณกระดูกข้อต่อขากรรไกรเมื่อเคี้ยวอาหาร
คุณหมอ Cheng ระบุว่าโดยปกติแล้วอาการของ TMJ ในตอนแรกจะไม่หนักหนาเท่าใดนัก แต่เนื่องจากเราต้องกินอาหารทุกวัน นานๆเข้าอาการดังกล่าวก็จะยิ่งลุกลามรุนแรง คุณหมอบอกว่าบาดแผลตามร่างกายใช้เวลาสัก 7 วันก็หาย กระดูกหักอาจใช้เวลา 7-8 สัปดาห์ในการรักษา แต่กระดูกอ่อนถูกทำลายนี้ยากที่จะทำให้กลับคืนมา หรืออาจต้องใช้เวลาในการรักษายาวนานถึง 4 เดือน และถึงแม้จะรักษาจนหายจากอาการเจ็บปวดแล้ว เวลารับประทานอาหารก็ยังอาจได้ยินเสียงขากรรไกรขยับกึกกักอยู่ดี
ทันตแพทย์ชาวสิงคโปร์ผู้นี้แนะนำว่า ทางที่ดีคือเวลาเดินเข้าไปสั่งอาหารร้านฟาสต์ฟู้ด แทนที่จะสั่งแฮมเบอร์เกอร์ Big Mac ขนาดใหญ่พิเศษที่เนื้อและขนมปังเรียงซ้อนกันหลายๆชั้น ให้เปลี่ยนใจสั่งแฮมเบอร์เกอร์ขนาดปกติ พอเหมาะพอดีกับความกว้างของปากคนเอเชีย ก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของอาการ TMJ นี้ได้อีกทางหนึ่ง
