ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผลการวิจัยระบุว่าการรับประทานแอสไพรินแค่ 75 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อยห้าปีขึ้นไปลดอัตราการเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งได้หลายชนิด


ผลการวิจัยระบุว่าการรับประทานแอสไพรินแค่ 75 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อยห้าปีขึ้นไปลดอัตราการเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งได้หลายชนิด
ผลการวิจัยระบุว่าการรับประทานแอสไพรินแค่ 75 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อยห้าปีขึ้นไปลดอัตราการเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งได้หลายชนิด

ทีมนักวิจัยชาวอังกฤษเปิดเผยว่า การรับประทานยาแอสไพรินเพียง 75 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อยห้าปีขึ้นไป สามารถลดอัตราการเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งได้ตั้งแต่ 10% จนถึง 60% โดยขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ขณะเดียวกัน นักวิจัยพบว่า การรับประทานแอสไพรินขนานสูงกว่านี้ ไม่ได้ช่วยเพิ่มประโยชน์ในด้านการปกป้องคุ้มครองแต่อย่างใด นอกจากนี้ ความแตกต่างทางเพศ หรือการมีประวัติเคยสูบบุหรี่หรือไม่ ก็ไม่มีผล แต่ที่มีผลคืออายุ เพราะนักวิจัยพบว่า อัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตในช่วง 20 ปี ลดลงเป็นอย่างมากในหมู่ผู้สูงอายุ

ทีมนักวิจัยชาวอังกฤษเปิดเผยว่า การรับประทานยาแอสไพรินเพียง 75 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อยห้าปีขึ้นไป สามารถลดอัตราการเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งได้ตั้งแต่ 10% จนถึง 60% โดยขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง

ผลการศึกษาครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการกลับไปวิเคราะห์งานวิจัยก่อนหน้านี้ 8 ชิ้น เกี่ยวข้องกับคนไข้มากกว่า 25,500 คนที่เป้าหมายเดิมต้องการจะพิจารณาประโยชน์ของแอสไพรินต่อหัวใจและเส้นโลหิต

รายงานการค้นพบประโยชน์ใหม่ของแอสไพรินนี้ ตีพิมพ์ไว้ในวารสาร The Lancet ฉบับออนไลน์ของวันที่ 7 ธันวาคม ศกนี้

คณะนักวิจัยพบว่า การรับประทานยาแอสไพรินขนานต่ำเพียงวันละ 75 มิลลิกรัมแม้ในช่วงที่การศึกษาวิจัยยังไม่ยุติลง คือระหว่าง 4 ถึง 8 ปีนั้น ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งโดยรวมได้มากถึง 21%

หลังห้าปีไปแล้ว จึงจะเริ่มเห็นประโยชน์ระยะยาวในการลดอัตราการเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ สำหรับโรคมะเร็งที่ระบบทางเดินอาหารส่วนบนพบว่าลดลง 54%

และ 20 ปีไปแล้ว จึงได้เห็นผลสำหรับมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก ซึ่งลดลง 10% และ 30% สำหรับผู้เป็นมะเร็งที่ปอด เฉพาะ adenocarcinomas ซึ่งมักจะเป็นกับผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ 40% ในหมู่คนไข้ที่เป็นมะเร็งลำไส้ และ 60% ในหมู่ผู้ที่เป็นมะเร็งที่หลอดอาหาร

ผู้เขียนรายงานตั้งข้อสังเกตว่า ไม่สามารถให้ตัวเลขกับผลกระทบต่อโรคมะเร็งอื่นๆ เช่นมะเร็งที่ตับอ่อน ที่ท้อง และที่สมองได้ ก็เพราะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเหล่านี้น้อยมาก

ขณะเดียวกัน นักวิจัยพบว่า การรับประทานแอสไพรินขนานสูงกว่านี้ ไม่ได้ช่วยเพิ่มประโยชน์ในด้านการปกป้องคุ้มครองแต่อย่างใด นอกจากนี้ ความแตกต่างทางเพศ หรือการมีประวัติเคยสูบบุหรี่หรือไม่ ก็ไม่มีผล แต่ที่มีผลคืออายุ เพราะนักวิจัยพบว่า อัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตในช่วง 20 ปี ลดลงเป็นอย่างมากในหมู่ผู้สูงอายุ

ทั้งหมดนี้ ทำให้นักวิจัยลงความเห็นสรุปว่า ผู้ที่เริ่มรับประทานแอสไพริน ขนานต่ำ เป็นระยะยาว ในช่วงอายุ 40 – 50 ปี น่าจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด แต่ก็เตือนไว้ด้วยว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับประทานยาขนานนี้ ก่อนจะเริ่ม ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะยาแอสไพรินมีผลข้างเคียง ซึ่งรวมทั้งเลือดไหลหยุดยาก และ stroke

XS
SM
MD
LG