หากคุณอยากหัดทำปอเปี๊ยเวียดนาม คุณคงจะเปิดหนังสือคู่มือทำกับข้าวดู แต่สำหรับ Linh Nguyen ครูสอนทำอาหารเวียดนามที่เมืองซานฟรานซิสโก เธอบอกว่า นั่นไม่ใช่วิธีที่เธอเรียนทำอาหาร ครอบครัวของเธอไม่เคยมีคู่มือทำกับข้าวด้วยซ้ำ
เธอบอกว่าในครัวคนเวียดนาม ไม่มีช้อนตวงหรือถ้วยตวง เวลาทำอาหารใช้วิธีกะปริมาณเครื่องปรุงแต่ละอย่างด้วยกำมือหรือหยิบมือหรือไม่ก็ใช้ชามข้าวเป็นเครื่องตวง สูตรอาหารแต่ละอย่างสอนกันตัวต่อตัว สืบทอดต่อกันเป็นรุ่นๆของสมาชิกในครอบครัว
คุณ Nguyen สอนทำอาหารด้วยเทคนิคนี้ที่บริษัท Culture Kitchen ที่ว่าจ้างคนต่างชาติที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยในอเมริการุ่นแรกให้เป็นครูสอนทำอาหาร คุณ Nguyen ย้ายมาอยู่อเมริกาตอนเป็นเด็กเมื่อราวสี่สิบปีที่แล้ว และเรียนรู้การทำอาหารเวียดนามจากแม่และป้าน้าอา
ผู้สอนกำลังสอนนักเรียนให้หั่นหัวหอมให้ละเอียด การเรียนการสอนทำอาหารที่ Culture Kitchen มีการจดสูตรอาหารและเน้นกลเม็ดในการประกอบอาหารเพื่อให้หน้าตาออกมาน่ารับประทานและมีรสชาติตามที่ควรจะเป็น ผู้สอนจะตอบคำถามทุกข้อที่นักเรียนสงสัย อย่างตอนนี้ครูกำลังสอนให้นักเรียนห่อปอเปี๊ยเวียดนามให้ถูกต้อง
Jennifer Lopez ร่วมก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหาร Culture Kitchen เมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา
มีการเสาะหาคนที่ทำอาหารเก่ง แต่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการสอนทำอาหารเพราะว่ามีปัญหาเรื่องภาษาและขาดการฝึกฝนให้สอนทำอาหารอย่างเป็นทางการ
คุณโลเปส บอกว่า ครูสอนทำอาหารที่ได้ตัวมาทำงานด้วย ไม่ได้ติดต่อเข้ามาเอง แต่ลูกชาย ลูกสาว เป็นผู้ติดต่อคุณโลเปสทางอีเมลล์บอกว่าคุณแม่หรือไม่ก็คุณยายทำอาหารอร่อยที่สุด แต่ขี้กลัวจึงไม่กล้าสมัครงาน
Culture Kitchen จัดสอนทำอาหารเดือนละสองครั้ง โดยตระเวณใช้สถานที่หลายๆสถานที่ตั้งแต่ห้องครัวของชาวบ้าน ห้องครัวในโรงเรียนสอนทำอาหาร หรือไม่ก็สถานที่ในศูนย์ของชุมชน คุณโลเปส หวังว่าจะสามารถจัดหาสถานที่สอนถาวรได้ในอนาคตอันใกล้ ตอนนี้สอนทำอาหารจากทั่วโลก อาทิ อาหารจากเบงกอล อาหารเปรู และอาหารจากอาฟกานิสถาน
แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากส่วนใหนของโลก สูตรอาหารจากประเทศต่างๆเหล่านี้ล้วนแสดงถึงความสัมพันธุ์ลึกซึ้งระหว่างคนในครอบครัว
อย่างไรก็ดี Culture Kitchen ไม่แค่พยายามอนุรักษ์สูตรอาหารไม่ให้หายสาปสูญเท่านั้น คุณโลเปส เจ้าของกิจการร่วมกล่าวว่ายังช่วยครูผู้สอนรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองมากขึ้น
เธอบอกว่าผู้หญิงหลายคนที่ทำงานให้กับ Culture Kitchen ไม่ค่อยมีเพื่อนต่างชาติต่างวัฒนธรรม ดังนั้นการได้สอนทำอาหารประจำชาติของตนแก่กลุ่มนักเรียนจึงเป็นประสบการใหม่ ช่วยให้พวกเธอกลายเป็นครูสอนทำอาหารอย่างเต็มตัว ช่วยแบ่งปันเคล็ดลับทำอาหารแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากรุ่นบรรพบุรุษแก่นักเรียนที่ขนขวายไฝ่รู้
