ทาเซีย ดูอาร์เต้ (Tacia Duarte) ชาวบราซิล ตามหาฝันของเธอด้วยการย้ายมาอยู่ในมหานครนิวยอร์ก เมืองที่เธอได้พบกับแฟนใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ ได้ทำงานชิ้นใหม่ๆ เเละมีครอบครัว
เธอบอกว่า เธอย้ายมาอยู่นิวยอร์คตามลำพัง นิวยอร์กเป็นเมืองใหญ่ที่คุณอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยว เเม้ว่าจะห้อมล้อมไปด้วยคนมากมายก็ตาม
ดูอาร์เต้อาศัยในบ้านที่แบ่งเช่าร่วมกับคนอื่นหนึ่งในจำนวนแปดหลังในเขตบรูคลิน ที่บริษัท Outpost Club เป็นเจ้าของ
เซียกี สตารอสติน (Sergii Starostin) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเป็นชาวยูเครนเเต่กำเนิด กล่าวว่า การเช่าบ้านร่วมกับผู้เช่าคนอื่น หรือ co-living เหมาะสำหรับคนอายุ 25 ถึง 40 ปีที่ตกงาน เลิกกับแฟน คู่สมรส หรืออาจเพิ่งย้ายมาอยู่นิวยอร์ค
การเช่าบ้านร่วมกับคนอื่นมักจะถูกกว่าการเช่าอพาร์ทเม้นท์ การเก็บค่าเช่าก็มีความยืดหยุ่นกว่า เเละการเช่าบ้านร่วมกับคนอื่นช่วยสร้างความรู้สึกแก่ผู้เช่าว่ามีชุมชนร่วมกัน
ผู้อยู่อาศัยมักทำกิจกรรมร่วมกัน ตั้งเเต่เล่นบาสเก็ตบอลด้วยกัน จนถึงไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ โดยกิจกรรมเหล่านี้จัดโดยผู้นำของบ้าน
คัลเลบ ซิมมอนส์ (Caleb Simmons) ผู้นำของบ้านเช่าร่วมกัน กล่าวว่าในฐานะผู้นำของบ้าน ตนเองได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบต้อนรับสมาชิกใหม่ย้ายเข้าบ้าน พาชมบ้าน เเละอธิบายให้เข้าใจถึงการอยู่บ้านเช่าร่วมกับผู้อื่น เเละต้องช่วยเหลือกันและกัน ตนเองเป็นคนวางแผนกิจกรรมที่จะทำร่วมกัน ทั้งการทำอาหารร่วมกัน หรือกิจกรรมกีฬาอีกหลายอย่างด้วยกัน
แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณไม่ชอบหน้าเพื่อนร่วมชายคาเดียวกัน?
สตารอสติน เจ้าของกิจการ กล่าวว่า ผู้นำของบ้านได้รับการฝึกฝนให้แก้ปัญหาขัดแย้งเเละมีการคัดเลือกผู้สมัครขอเช่าบ้านเพื่อให้ได้ผู้เช่าที่ไม่สร้างปัญหา
บริษัท "Outpost Club" ยังได้ว่าจ้างบริษัทเข้าไปทำความสะอาดเพื่อลดปัญหาระหว่างผู้อยู่อาศัยที่มักขัดเเย้งกันว่าใครต้องทำความสะอาด ผู้เช่ายังสามารถขอย้ายไปยังบ้านแบ่งเช่าหลังอื่นๆ ได้ด้วย
เเต่วิศวกรด้านซอฟเเวร์จากกัวเตมาลา ออสการ์ โอชัว (Oscar Ochoa) บอกว่า ตนเองชอบอาศัยในบ้านเเบ่งเช่าร่วมกันผู้อื่น ผู้เช่าบางคนอยู่นานไม่กี่สัปดาห์ บางคนเช่านานหนึ่งเดือน ตนเองได้พบปะกับคนมากหน้าหลายตาที่ย้ายเข้าเเละออกตลอดเวลา ซึ่งเป็นข้อดีที่สุดอย่างหนึ่ง
บริษัท Outpost Club ตั้งขึ้นเมื่อสองปีกว่าที่แล้ว เเละกลายเป็นผู้ให้บริการบ้านแบ่งเช่ารายใหญ่ที่สุดอันดับสามในนิวยอร์ก สตารอสตินกับผู้ร่วมลงทุนของบริษัทเชื่อว่า ความนิยมของการเช่าบ้านร่วมกันจะเพิ่มขึ้นเพราะราคาบ้านในนิวยอร์กเเพงขึ้น
เเละเมื่อมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นแต่งงานช้าลง หรือเลื่อนแผนซื้อบ้านออกไป การอาศัยร่วมกันด้วยการแบ่งเช่าอาจเป็นสัญญาณของการวิวัฒนาการตามธรรมชาติของความฝันของชาวอเมริกัน
(ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
