นาย Gary Locke เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง มีถ้อยแถลงออกมาเมื่อวันพุธว่า จะพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวต้นปีหน้า หลังจากที่ได้แจ้งให้ประธานาธิบดี Barack Obama รับทราบการตัดสินใจของเขาเมื่อต้นเดือนนี้
นักการทูต ซึ่งในอดีตเป็นผู้ว่าการรัฐ Washington ของสหรัฐ เป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีนเป็นคนแรกที่ดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐประจำปักกิ่ง
เอกอัครราชทูต Gary Locke กล่าวไว้ในถ้อยแถลงว่า เป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งนี้ และหยิบยกผลงานที่ได้ทำในช่วงกว่าสองปีมานี้ว่า การส่งออกของสหรัฐไปยังจีนเพิ่มขึ้น ในขณะที่มีชาวจีนเดินทางไปสหรัฐมากขึ้น เพราะได้ปรับช่วงเวลาการขอวีซ่าให้สั้นลง
ทูตอเมริกันประจำจีนผู้นี้ยังกล่าวถึงผลงานในด้านการส่งเสริมค่านิยมของสังคมอเมริกัน โดยการพบหารือกับผู้นำทางศาสนาและนักกฎหมายทางด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเดินทางเยือนธิเบตและซินเจียง ซึ่งเป็นบริเวณที่ชนกลุ่มน้อยในจีนร้องทุกข์เกี่ยวกับนโยบายเลือกปฏิบัติของรัฐบาลจีนต่อพวกตน
แต่เรื่องที่เป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลาที่ทูต Gary Locke อยู่ที่กรุงปักกิ่ง คือเรื่องผู้บังคับการตำรวจที่สมรู้ร่วมคิดกับนักการเมืองดาวรุ่ง Bo Xilai แต่กลับใจและหนีเข้าไปพึ่งสถานกงสุลสหรัฐ รวมทั้งเรื่องนักกฎหมายจีนตาพิการที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับทางการจีน และหนีไปพึ่งสถานทูตสหรัฐเช่นเดียวกัน
แต่ประเด็นที่ดูจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐมาตลอด คือการลอบล้วงความลับทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนาย Edward Snowden อดีตลูกจ้างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐหรือ NSA เดินทางไปฮ่องกงและเปิดเผยว่าสหรัฐดำเนินการดังกล่าวต่อจีน ในขณะที่กล่าวหาว่าจีนลอบล้วงความลับของสหรัฐทางอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Shi Yinhong นักรัฐศาสตร์จีนจากมหาวิทยาลัย Renmin ในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า การทำงานแบบสงบสุขุมของทูตอเมริกันผู้นี้ ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายฝ่าฟันปัญหาต่างๆเหล่านี้มาได้
อาจารย์ Shi Yinhong บอกว่า มีสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดหลายครั้ง บางทีเป็นการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ และบางทีก็เป็นความขัดแย้งทางด้านสิทธิมนุษยชน แต่ทูต Gary Locke ไม่เคยนำเรื่องเหล่านี้มาพูดอย่างเปิดเผย ซึ่งช่วยได้มาก
อาจารย์ James Nolt ของ New York Institute of Technology วิทยาเขต Nanjing บอกว่า แม้ปัญหาระหว่างสหรัฐกับจีนในช่วงเวลาที่ทูต Gary Locke อยู่ที่ปักกิ่งจะมีหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการค้าไปจนถึงการอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือเขตแดนทับซ้อนกันในภูมิภาค แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
นักวิชาการอเมริกันผู้นี้มองว่า ทูต Gary Locke เป็นผู้ดำเนินการต่อเนื่อง วางตัวเป็นนักการทูตอาชีพที่ทำงานได้ผลดี ในขณะที่นโยบายของทั้งสองประเทศไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ผู้คนทั่วไปอาจจะมีความเข้าใจแง่มุมการเมืองดีขึ้น เพราะฉนั้น แม้สหรัฐกับจีนอาจจะมีความไม่พอใจซึ่งกันและกันบ้าง แต่ความสัมพันธ์โดยรวมนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนนาย Chen Qi ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่ Carnegie-Tsinghua Center for Global Policy พยายามจะอธิบายสาเหตุที่ทำให้ทูต Gary Locke ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง
นักวิชาการจีนผู้นี้ ไม่เชื่อว่า เป็นเพราะประธานาธิบดี Obama หมดโอกาสการเปลี่ยนแปลงในชีวิต
ทูตอเมริกันเชื้อสายจีนผู้นี้มีบุตรสามคน และเริ่มเข้ารับหน้าที่ทูตประจำกรุงปักกิ่งในเดือนกรกฎาคม 2554 เขาบอกไว้ว่าจะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่นคร Seattle ในรัฐวอชิงตัน หลังพ้นจากตำแหน่งต้นปีหน้า
นักการทูต ซึ่งในอดีตเป็นผู้ว่าการรัฐ Washington ของสหรัฐ เป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีนเป็นคนแรกที่ดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐประจำปักกิ่ง
เอกอัครราชทูต Gary Locke กล่าวไว้ในถ้อยแถลงว่า เป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งนี้ และหยิบยกผลงานที่ได้ทำในช่วงกว่าสองปีมานี้ว่า การส่งออกของสหรัฐไปยังจีนเพิ่มขึ้น ในขณะที่มีชาวจีนเดินทางไปสหรัฐมากขึ้น เพราะได้ปรับช่วงเวลาการขอวีซ่าให้สั้นลง
ทูตอเมริกันประจำจีนผู้นี้ยังกล่าวถึงผลงานในด้านการส่งเสริมค่านิยมของสังคมอเมริกัน โดยการพบหารือกับผู้นำทางศาสนาและนักกฎหมายทางด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเดินทางเยือนธิเบตและซินเจียง ซึ่งเป็นบริเวณที่ชนกลุ่มน้อยในจีนร้องทุกข์เกี่ยวกับนโยบายเลือกปฏิบัติของรัฐบาลจีนต่อพวกตน
แต่เรื่องที่เป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลาที่ทูต Gary Locke อยู่ที่กรุงปักกิ่ง คือเรื่องผู้บังคับการตำรวจที่สมรู้ร่วมคิดกับนักการเมืองดาวรุ่ง Bo Xilai แต่กลับใจและหนีเข้าไปพึ่งสถานกงสุลสหรัฐ รวมทั้งเรื่องนักกฎหมายจีนตาพิการที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับทางการจีน และหนีไปพึ่งสถานทูตสหรัฐเช่นเดียวกัน
แต่ประเด็นที่ดูจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐมาตลอด คือการลอบล้วงความลับทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนาย Edward Snowden อดีตลูกจ้างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐหรือ NSA เดินทางไปฮ่องกงและเปิดเผยว่าสหรัฐดำเนินการดังกล่าวต่อจีน ในขณะที่กล่าวหาว่าจีนลอบล้วงความลับของสหรัฐทางอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Shi Yinhong นักรัฐศาสตร์จีนจากมหาวิทยาลัย Renmin ในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า การทำงานแบบสงบสุขุมของทูตอเมริกันผู้นี้ ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายฝ่าฟันปัญหาต่างๆเหล่านี้มาได้
อาจารย์ Shi Yinhong บอกว่า มีสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดหลายครั้ง บางทีเป็นการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ และบางทีก็เป็นความขัดแย้งทางด้านสิทธิมนุษยชน แต่ทูต Gary Locke ไม่เคยนำเรื่องเหล่านี้มาพูดอย่างเปิดเผย ซึ่งช่วยได้มาก
อาจารย์ James Nolt ของ New York Institute of Technology วิทยาเขต Nanjing บอกว่า แม้ปัญหาระหว่างสหรัฐกับจีนในช่วงเวลาที่ทูต Gary Locke อยู่ที่ปักกิ่งจะมีหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการค้าไปจนถึงการอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือเขตแดนทับซ้อนกันในภูมิภาค แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
นักวิชาการอเมริกันผู้นี้มองว่า ทูต Gary Locke เป็นผู้ดำเนินการต่อเนื่อง วางตัวเป็นนักการทูตอาชีพที่ทำงานได้ผลดี ในขณะที่นโยบายของทั้งสองประเทศไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ผู้คนทั่วไปอาจจะมีความเข้าใจแง่มุมการเมืองดีขึ้น เพราะฉนั้น แม้สหรัฐกับจีนอาจจะมีความไม่พอใจซึ่งกันและกันบ้าง แต่ความสัมพันธ์โดยรวมนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนนาย Chen Qi ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่ Carnegie-Tsinghua Center for Global Policy พยายามจะอธิบายสาเหตุที่ทำให้ทูต Gary Locke ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง
นักวิชาการจีนผู้นี้ ไม่เชื่อว่า เป็นเพราะประธานาธิบดี Obama หมดโอกาสการเปลี่ยนแปลงในชีวิต
ทูตอเมริกันเชื้อสายจีนผู้นี้มีบุตรสามคน และเริ่มเข้ารับหน้าที่ทูตประจำกรุงปักกิ่งในเดือนกรกฎาคม 2554 เขาบอกไว้ว่าจะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่นคร Seattle ในรัฐวอชิงตัน หลังพ้นจากตำแหน่งต้นปีหน้า
