ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เครือข่ายสังคมออนไลน์: พลังใหม่ที่กำลังมีบทบาทสร้างแรงกดดันมากขึ้นต่อรัฐบาลจีน


เครือข่ายสังคมออนไลน์: พลังใหม่ที่กำลังมีบทบาทสร้างแรงกดดันมากขึ้นต่อรัฐบาลจีน
เครือข่ายสังคมออนไลน์: พลังใหม่ที่กำลังมีบทบาทสร้างแรงกดดันมากขึ้นต่อรัฐบาลจีน

ปัจจุบันจีนคือประเทศที่มีผู้ใช้อินเทอร์เนตมากที่สุดในโลกแม้รัฐบาลจีนได้ควบคุมการเข้าเว็บไซต์ต่างๆอย่างเข้มงวด และสื่ออินเทอร์เนตได้กลายมาเป็นแรงกดดันที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆต่อรัฐบาลและผู้นำจีนในยุคสื่อดิจิตัลสมัยใหม่

เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม ชาวจีนหลายพันคนเดินขบวนประท้วงในเมืองต้าเหลียน เรียกร้องให้รัฐบาลปิดโรงงานสารเคมีแห่งหนึ่งเนื่องจากความกังวลด้านสุขภาพและความปลอดภัย ภาพถ่ายและวีดีโอเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนกำลังกล่าวปราศรัยต่อประชาชนระหว่างการประท้วงดังกล่าวถูกเก็บกวาดออกจากเว็บไซต์ต่างๆในประเทศจีนอย่างรวดเร็ว แต่ในที่สุดแล้วโรงงานแห่งนั้นถูกปิดและย้ายไปที่อื่น

คุณ Luo Xiaopeng นักเศรษฐศาสตร์ชาวจีน ให้ทัศนะว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันสื่อสมัยใหม่อย่างอินเทอร์เนตกำลังมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้น และกลายเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทางการเมืองในประเทศจีนอย่างที่ไม่มีใครยับยั้งได้

ย้อนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ผลพวงจากอุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกันใกล้นครเซี่ยงไฮ้ยิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงพลังของเครือข่ายชุมชนออนไลน์ ชาวจีนจำนวนมากใช้เว็บไซต์ Weibo ซึ่งคล้ายๆกับเว็บไซต์ Tweeter วิจารณ์โจมตีรัฐบาลจีนอย่างรุนแรง

คุณ Chen Kuide แห่งสถาบันวิจัย Princeton China Initiative ระบุว่ารัฐบาลกรุงปักกิ่งเล็งเห็นพลังของเว็บไซต์ Weibo หลังอุบัติเหตุดังกล่าว ข้อมูลข่าวสารต่างๆหลั่งไหลผ่านชุมชนออนไลน์อย่างรวดเร็วจนรัฐบาลจีนเกรงว่าอาจเป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลได้ หลังจากนั้นมีข่าวออกมาว่ารัฐบาลจีนพยายามควบคุมเว็บไซต์ Weibo อย่างกวดขันมากกว่าเดิม แต่นั่นยิ่งทำให้บรรดานักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลจีนจะควบคุมสื่ออินเทอร์เนตอย่างเข้มงวดไปได้อีกนานแค่ไหน โดยไม่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจจีนและความน่าเชื่อถือในสายตาต่างประเทศ

ปัจจุบัน จีนยังคงปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เนตเข้าเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์จากต่างประเทศเช่น Facebook และ YouTube รวมถึงเว็บไซต์ที่รัฐบาลจีนมองว่ามีเนื้อหาอ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติ

นักเศรษฐศาสตร์ Luo Xiaopeng ระบุว่า แม้ขณะนี้รัฐบาลจีนได้พยายามตอบสนองต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาผู้ใช้อินเทอร์เนตชาวจีนมากขึ้น แต่ความขัดแย้งในระดับท้องถิ่นที่ปรากฎออกมาในโลกออนไลน์สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศจีนซึ่งก่อตัวในช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมาภายใต้การนำของประธานาธิบดี Hu Jintao และเป็นความท้าทายที่ผู้นำจีนคนใหม่ที่จะมาแทนประธานาธิบดี Hu ในปีหน้า มิอาจหลีกเลี่ยง

นักเศรษฐศาสตร์ Luo Xiaopeng ชี้ว่าผู้นำจีนคนใหม่จะต้องเปิดกว้างรับความคิดเห็นของประชาชนมากขึ้น แต่ปัญหาท้าทายประการหนึ่งคือจีนยังไม่มีธรรมเนียมของการสื่อสารหรือการเจรจาแบบใช้เหตุผล ซึ่งจะนำไปสู่สภาวะการณ์แห่งความไม่แน่นอนที่เกิดจากความไม่เข้าใจกันระหว่างรัฐบาลกับเครือข่ายสังคมทางอินเทอร์เนต

XS
SM
MD
LG