การประชุมสมัชชาประชาชนจีนประจำปีเริ่มขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ คำถามหนึ่งที่สำคัญคือเรื่องทิศทาง ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง จะผลักดันสำหรับการปฏิรูปประเทศจีน
นักวิเคราะห์กล่าวว่าเท่าที่ผ่านมา สมาชิกบางคนของสมัชชาประชาชนจีนซึ่งทำหน้าที่เป็นสภานิติบัญญัติของประเทศ รวมทั้งบรรดานักคิดนักวิชาการ ได้เป็นกังวลว่าผู้นำของจีนอาจพยายามหมุนเข็มนาฬิกากลับหลัง ด้วยการนำรูปแบบผู้นำแบบเผด็จการมาใช้ แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้อย่างเปิดเผย
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อสามปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ได้แสดงให้เห็นว่าตนไม่ต้องการความเห็นที่แตกแถวนอกทาง ขณะเดียวกัน สื่อของทางการจีนก็พยายามยกภาพลักษณ์ของผู้นำจีนคนปัจจุบัน ให้โดดเด่นเทียบเท่านายเติ้ง เสี่ยว ผิง
แต่เรื่องนี้ก็สร้างภาระหนักเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเช่นกัน
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าสัญญาณที่สำคัญเรื่องหนึ่งว่า ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง จะควบคุมอำนาจเพื่อตนเองหรือเพื่อผลักดันการปฏิรูปนั้น นอกจากเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจแล้ว ยังอยู่ที่ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน จะแต่งตั้งใครขึ้นเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร Politburo ของพรรคในปลายปีหน้า
รวมทั้งจะมีการตั้งบุคคลอย่างเช่น นายฮู ชุนหัว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนในมณฑลกวางตุ้ง เข้าเป็นรองประธานาธิบดีหรือไม่? เพราะการแต่งตั้งรองประธานาธิบดีก็หมายถึงมีการวางแผนสืบทอดตำแหน่งผู้นำ
แต่หากไม่มีการตั้งรองประธานาธิบดี เรื่องนี้ก็อาจหมายถึงว่า ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง มีแผนที่จะอยู่ในตำแหน่งมากกว่า 10 ปี ซึ่งนับว่านานกว่าประธานาธิบดีคนก่อนๆ ที่ผ่านมา