เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ของเขตต่าง ๆ ทั่วประเทศจีนเกือบ 400 คนเสร็จสิ้นการประชุมประจำปี 4 วันที่กรุงปักกิ่งในวันอังคาร ที่ประชุมเห็นชอบแผนการใหม่เรื่องการปฏิรูปทางวัฒนธรรมที่พยายามจะรักษาความมั่นคงภายในประเทศและส่งเสริมอิทธิพลของจีนในต่างประเทศ การประชุมครั้งนี้มีขึ้นขณะที่จีนกำลังเตรียมการสำหรับการสืบทอดอำนาจทางการเมืองในปีหน้า
ในการประชุมปีนี้ บรรดาผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์มุ่งเน้นบทบาทสำคัญทางวัฒนธรรมในการส่งเสริมเอกภาพความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในชาติ ความริเริ่มสร้างสรร ความเข้มแข็ง และความสามารถในการแข่งขัน
ในแถลงการณ์หลังการประชุมเป็นการภายใน พรรคคอมมิวนิสต์เน้นย้ำความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยง และปัญหาท้าทายในการคุ้มครองเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจีน และชี้ถึงความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมอำนาจแบบนุ่มนวลและอิทธิพลทางวัฒนธรรมของจีนในนานาประเทศ สื่อมวลชนของรัฐตั้งข้อสังเกตว่า อิทธิพลด้านแนวคิดและทางวัฒนธรรมของจีนยังคงล้าหลังบรรดาชาติตะวันตก
Dean Cheng นักวิเคราะห์ด้านเอเชียที่มูลนิธิ Heritage Foundation ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า แผนการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้น มุ่งกว้างไกลเกินกว่าการเน้นความมั่งคั่งและประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศอย่างที่บ่งชี้กันในสื่อมวลชนของทางการจีน เขากล่าวว่า แม้ระบบการเผยแพร่ข่าวสารประชาสัมพันธ์ของจีนจะออกหนังสือและนิตยสารมากมายก่ายกอง แต่ก็ยังไม่แข็งแรงเท่ากับผู้พิมพ์แผยแพร่ชองชาติตะวันตกเพียงรายเดียว บทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ People’s Daily กล่าวว่า ประเทศที่สามารถส่งออกแต่เพียงเครื่องรับโทรทัศน์ แต่ไม่สามารถส่งแนวคิดและวัฒนธรรมของตนนั้น ไม่อาจเป็นประเทศมหาอำนาจได้
Li Cheng นักวิชาการที่ร่วมทำงานอยู่ที่สถาบัน Brookings Institute กล่าวว่า แม้จีนจะมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จทางเศรษฐกิจ แต่ผู้นำบางคนพูดถึงความเสื่อมทางศีลธรรมในจีน ขณะที่แผนการที่ที่ประชุมเห็นชอบในสัปดาห์นี้ พยายามจะจัดการกับอิทธิพลของสื่อออนไลน์และสื่อหลากหลายในจีนนั้น เขากล่าวว่ายังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องการควบคุมสื่อมวลชนต่าง ๆ รวมทั้งสื่ออินเทอร์เน็ท ขณะเดียวกับที่จะให้มีความเปิดเผย และส่งเสริมการเจรจาที่แท้จริง
เขาเห็นว่า หากจีนต้องการจะมุ่งเน้นในเรื่องอิทธิพลแบบนุ่มนวลแล้ว ความก้าวหน้าทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของสังคมพลเรือนจะเป็นกุญแจสำคัญ ขณะนี้ ทางการจีนกำลังใช้ระบบข่าวสารข้อมูลอินเทอร์เน็ทในการจัดการกับปัญหาทางสังคมและคอรัปชั่นมากขึ้น
การรักษาอำนาจในการควบคุมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับจีนขณะที่ปลายปีหน้า ประธานาธิบดีฮูจิ่นเทาจะออกจากตำแหน่ง และคาดว่า รองประธานาธิบดี สือจิ่นผิง จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ตำแหน่งระดับสูงต่าง ๆ ส่วนใหญ่มีการจัดตั้งกันไว้แล้ว แต่นักวิเคราะห์กล่าวกันว่า ยังมีการวิ่งเต้นสำหรับตำแหน่งอื่น ๆ กันอีก
Dean Cheng นักวิเคราะห์ด้านเอเชียที่มูลนิธิ Heritage Foundation กล่าวว่า เป็นที่เห็นกันว่า มีการแก่งแย่งแข่งขันชิงตำแหน่งกันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และมีข่าวลือซ้ำๆ ว่า ขณะที่ตำแหน่งของนายสือจิ่นผิงกำหนดไว้แล้วนั้น แต่ตำแหน่งของรองนายกรัฐมนตรี หลี่เคเกียง อาจยังไม่ได้กำหนด คาดกันว่า รองนายกรัฐมนตรี หลี่เคเกียง จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายเหวินเจียบาว แต่นักวิเคราะห์เห็นกันว่า ยังมีคนอื่น ๆ ที่กำลังแข่งกันเพื่อจะได้ตำแหน่งนั้น รวมทั้งนายโบสื่อหลาย หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ในจังหวัดชงกิงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่รณรงค์เพื่อตำแหน่งในอนาคตอย่างเปิดเผย ซึ่งเป็นรายแรกในประวัติการณ์การสืบทอดตำแหน่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
