ประมาณกันว่า หนึ่งในสี่ของผู้หญิงจีนถูกสามีทำร้ายร่างกาย จีนไม่มีกฎหมายปกป้องผู้หญิงในเรื่องนี้ ซี่งทำให้ทางการเจ้าหน้าที่ไม่มีเครื่องมือตามกฎหมายที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เมื่อเร็วๆนี้ ผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่งที่แต่งงานกับผู้ชายจีนโพสต์รูปรอยฟกช้ำที่เธอได้รับจากฝีมือของสามีออนไลน์ ซี่งก่อให้เกิดปฎิกิริยาตามมาเป็นอย่างมาก
Kim Lee บอกว่า ไม่คาดคิดว่า เพียงชั่วข้ามคืนจะมีคนสนใจเข้าไปดูภาพเหล่านั้นมากถึงหมื่นสองหมื่นคน และไม่รู้ด้วยว่าเป็นปัญหาทั่วประเทศ
สำนักงานคุ้มครองผู้หญิงของทางการจีนประมาณว่า ราวๆหนึ่งในสี่ของผู้หญิงจีนถูกสามีทุบตีทำร้าย แต่คาดว่าตัวเลขจริงๆจะสูงกว่านั้น ผู้หญิงจำนวนมากไม่แจ้งความ เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ถือเป็นจริงเป็นจัง
Kim Lee บอกต่อไปว่า พลังผลักดันที่ทำให้เธอต่อสู้เรื่องนี้ในประเทศจีนเป็นเวลานานก็เพราะไม่มีใครดำเนินการอะไร ไม่มีใครอยากจะช่วย ตำรวจไม่สนใจ ไปร้องเรียนกับสหพันธ์สตรีก็ไม่ติดต่อกลับมา ปรึกษากับคุณแม่ กลับบอกว่าจะทำอะไรได้ ในเมื่อสามีเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าของรถ ทำให้รู้สึกว่าไม่มีทางจะช่วยตัวเองได้เลย
ในที่สุด Kim Lee ฟ้องหย่าในข้อหาความรุนแรงในครอบครัวได้สำเร็จ ซึ่งบรรดานักกฎหมายกล่าวว่าเป็นคำพิพากษาตัดสินครั้งสำคัญ แต่จีนยังไม่มีกฎหมายของประเทศที่ให้คำจำกัดความและจัดการกับเรื่องความรุนแรงในครอบครัวโดยตรง
Liu Xiaoquan นักกฎหมายทางด้านสิทธิสตรีในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า ตำรวจซึ่งเป็นจุดแรกที่ผู้รับเคราะห์ไปขอความช่วยเหลือ มองว่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาภายในของครอบครัว บางครั้งรับแจ้งความแล้ว ตำรวจยังไม่ทำรายงานด้วยซ้ำไป หรือไม่ก็เขียนว่าครอบครัวทะเลาะกันและปัญหาคลี่คลายไปเอง
องค์กรพิทักษ์สิทธิสตรีเร่งเร้าให้รัฐบาลออกกฎหมายว่าด้วยเรื่องความรุนแรงในครอบครัวในช่วงการประชุมประจำปีของรัฐสภาประชาชนในปีนี้ มีการยกร่างกฎหมายขึ้นมา แต่ไม่ผ่านสภา อย่างไรก็ตามนักต่อสู้เคลื่อนไหวคาดว่าในที่สุดแล้ว จีนจะมีกฎหมายในเรื่องนี้ แต่อาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี
ในอีกด้านหนึ่ง นักเพศวิทยา Fang Gang บอกว่า วัฒนธรรมขั้นพื้นฐานก็จะต้องเปลี่ยนแปลงด้วย และผู้ชายจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เขาให้ความเห็นว่า จะประนามผู้ชายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องช่วยให้เขาปรับเปลี่ยนด้วยการให้การศึกษา นักเพศวิทยา Fang Gang ได้จัดตั้งโทรศัพท์สายด่วนขึ้นมาเมื่อกว่าสองปีที่แล้วเพื่อสนทนากับผู้ชายที่สารภาพว่าตนทำร้ายทุบตีภรรยา ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
Kim Lee บอกว่า ไม่คาดคิดว่า เพียงชั่วข้ามคืนจะมีคนสนใจเข้าไปดูภาพเหล่านั้นมากถึงหมื่นสองหมื่นคน และไม่รู้ด้วยว่าเป็นปัญหาทั่วประเทศ
สำนักงานคุ้มครองผู้หญิงของทางการจีนประมาณว่า ราวๆหนึ่งในสี่ของผู้หญิงจีนถูกสามีทุบตีทำร้าย แต่คาดว่าตัวเลขจริงๆจะสูงกว่านั้น ผู้หญิงจำนวนมากไม่แจ้งความ เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ถือเป็นจริงเป็นจัง
Kim Lee บอกต่อไปว่า พลังผลักดันที่ทำให้เธอต่อสู้เรื่องนี้ในประเทศจีนเป็นเวลานานก็เพราะไม่มีใครดำเนินการอะไร ไม่มีใครอยากจะช่วย ตำรวจไม่สนใจ ไปร้องเรียนกับสหพันธ์สตรีก็ไม่ติดต่อกลับมา ปรึกษากับคุณแม่ กลับบอกว่าจะทำอะไรได้ ในเมื่อสามีเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าของรถ ทำให้รู้สึกว่าไม่มีทางจะช่วยตัวเองได้เลย
ในที่สุด Kim Lee ฟ้องหย่าในข้อหาความรุนแรงในครอบครัวได้สำเร็จ ซึ่งบรรดานักกฎหมายกล่าวว่าเป็นคำพิพากษาตัดสินครั้งสำคัญ แต่จีนยังไม่มีกฎหมายของประเทศที่ให้คำจำกัดความและจัดการกับเรื่องความรุนแรงในครอบครัวโดยตรง
Liu Xiaoquan นักกฎหมายทางด้านสิทธิสตรีในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า ตำรวจซึ่งเป็นจุดแรกที่ผู้รับเคราะห์ไปขอความช่วยเหลือ มองว่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาภายในของครอบครัว บางครั้งรับแจ้งความแล้ว ตำรวจยังไม่ทำรายงานด้วยซ้ำไป หรือไม่ก็เขียนว่าครอบครัวทะเลาะกันและปัญหาคลี่คลายไปเอง
องค์กรพิทักษ์สิทธิสตรีเร่งเร้าให้รัฐบาลออกกฎหมายว่าด้วยเรื่องความรุนแรงในครอบครัวในช่วงการประชุมประจำปีของรัฐสภาประชาชนในปีนี้ มีการยกร่างกฎหมายขึ้นมา แต่ไม่ผ่านสภา อย่างไรก็ตามนักต่อสู้เคลื่อนไหวคาดว่าในที่สุดแล้ว จีนจะมีกฎหมายในเรื่องนี้ แต่อาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี
ในอีกด้านหนึ่ง นักเพศวิทยา Fang Gang บอกว่า วัฒนธรรมขั้นพื้นฐานก็จะต้องเปลี่ยนแปลงด้วย และผู้ชายจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เขาให้ความเห็นว่า จะประนามผู้ชายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องช่วยให้เขาปรับเปลี่ยนด้วยการให้การศึกษา นักเพศวิทยา Fang Gang ได้จัดตั้งโทรศัพท์สายด่วนขึ้นมาเมื่อกว่าสองปีที่แล้วเพื่อสนทนากับผู้ชายที่สารภาพว่าตนทำร้ายทุบตีภรรยา ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
