รัฐบาลจีนเร่งทำความเข้าใจกับนักลงทุนที่อยู่ในภาวะตกใจกลัว หลังทางการดำเนินมาตรการคุมเข้มธุรกิจอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย ขณะที่บริษัท Didi Global ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นเรียกรถสัญชาติจีนต้องเผชิญแรงกดดันจากการถูกนักลงทุนในสหรัฐฯ ยื่นฟ้องหลายข้อหาอยู่
สำนักข่าว เอพี รายงานโดยอ้างคำแถลงของ หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ว่า เจ้าหน้าที่กำกับดูแลกิจการจีนกำลังทำการตรวจสอบข้อมูลด้านความมั่นคง “ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆ เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ” อยู่ในเวลานี้
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทอินเตอร์เน็ตสัญชาติจีนทั้งหลายที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอรก์และฮ่องกง ร่วงหนักหลังบริษัท Didi ที่เป็นเจ้าของแอปพลิเคชั่นเรียกรถ (Ride Sharing) ได้รับคำสั่งให้ระงับการรับสมัครผู้ใช้งานใหม่ ๆ และทำการยกเครื่องการจัดการข้อมูลลูกค้า ขณะที่บริษัทอินเตอร์เน็ตอื่นๆ ถูกสั่งลงโทษฐานทำผิดกฎอื่นๆ จนทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเข้ามาจัดการควบคุมบริษัทเหล่านี้ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของชาวจีนมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลจีน พยายามส่งเสริมให้ประชาชนใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อประโยชน์ทางด้านธุรกิจและการศึกษา แต่ดำเนินการคุมเข้มผู้ให้บริการเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างๆ เช่น อาลีบาบา (Alibaba) และเทนเซนต์ (Tencent) ที่ทำการขยายธุรกิจเข้าสู่ภาคการเงิน สาธารณสุข และธุรกิจที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ
และนอกจากแรงกดดันต่อการทำธุรกิจในประเทศแล้ว Didi Global ยังต้องเผชิญแรงกดดันจากการที่นักลงทุนในสหรัฐฯ ยื่นเรื่องฟ้องบริษัทแห่งนี้อย่างน้อย 4 คดีแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า การฟ้องร้องที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเมือง สำหรับผู้ที่ตัดสินใจลงทุนในบริษัทสัญชาติจีนที่นำหุ้นมาเสนอขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ด้วย
ข้อมูลการยื่นฟ้อง ระบุว่า โจทก์ซึ่งเป็นนักลงทุนหลายรายในสหรัฐฯ ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจาก Didi ที่ไม่เปิดเผยความจริงว่า ทางบริษัทได้รับคำเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจาจากรัฐบาลจีนให้พิจารณาเลื่อนแผนการเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับสาธารณะ หรือ IPO ที่ตลาดหลักทรัพย์ New York Stock Exchange (NYSE) ออกไปหรือไม่
บริษัท Didi Global ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2012 โดย เว่ย เจิง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของบริษัทอีคอมเมิร์ส อาลีบาบา และมีธุรกิจหลักคือการพัฒนาแอปคล้ายๆ กับบริการอูเบอร์ (Uber) โดยบริษัทแห่งนี้ประสบความสำเร็จในการขยายงานจนครอบคลุมพื้นที่ราว 4,000 เมืองใน 15 ประเทศ และมีผู้ใช้งานประมาณ 493 ล้านคนต่อปี
Didi Global จดทะเบียนนำหุ้นเข้าซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์ NYSE เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นเปิดตัวที่ราคา 14 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าของบริษัทพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ราว 68,000 ล้านดอลลาร์ และทำให้บริษัทแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นธุรกิจจีนที่ทำ IPO ในตลาดหลักทรัพย์อเมริกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ บริษัท อาลีบาบา ระดมทุนได้ 25,000 ล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 2014
(ที่มาเพิ่มเติม: สำนักข่าว เอพี)
