กองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF เกรงว่า โควิด-19 ระลอกที่สองที่ทวีความรุนแรงในอินเดียอาจลุกลามเหมือนไฟป่าไปทั่วแถบเอเชียใต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่าง ๆ ด้านสุขภาพและการปกป้องเด็กหลายล้านคนทั่วภูมิภาค
ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอินเดียยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้น องค์การยูนิเซฟกล่าวว่า โคโรนาไวรัสทำให้เด็กและทารกเจ็บป่วยและล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้น พร้อมเตือนด้วยว่า เด็ก ๆ กำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมายทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคมและเศรษฐกิจ
Yasmin Ali Haque ตัวแทนขององค์การยูนิเซฟในอินเดีย กล่าวว่า เด็กหลายคนต้องสูญเสียพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเนื่องจากการติดเชื้อไวรัส ทำให้มีเด็กจำนวนมากที่ขาดคนดูแล
เธอกล่าวอีกว่า แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ แต่จะเห็นได้ว่ามีการวิงวอนขอให้รับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมอย่างผิดกฎหมายปรากฏตามโซเชียลมีเดีย ทำให้เด็กกำพร้าเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกค้ามนุษย์และการล่วงละเมิด นอกจากนั้น เด็ก ๆ กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตและมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการล็อคดาวน์ทำให้พวกเขาถูกตัดขาดจากเครือข่ายการช่วยเหลือต่าง ๆ
สถานรักษาพยาบาลต่างในอินเดียกำลังรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการด้านสุขภาพอื่น ๆ เช่น การที่เด็กไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม และโรคอื่น ๆ เป็นต้น
เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นผู้นี้กล่าวต่อไปอีกว่า มีรายงานของหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่สามารถหาที่ทำคลอดได้ ซึ่งอาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตายในประเทศที่มีอัตราการเกิด 27 ล้านคนและอัตราการตั้งครรภ์ 30 ล้านครั้งในแต่ละปี และว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบในอินเดียราวครึ่งหนึ่งมีภาวะขาดสารอาหารกันอยู่ก่อนแล้ว และวิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบันก็อาจส่งผลกระทบต่อโภชนาการของเด็กและการให้บริการทั่วประเทศมากขึ้นไปอีก
ยังไม่นับรวมว่า ตอนนี้โรงเรียนทั่วอินเดียยังคงปิดอยู่และการเรียนออนไลน์ก็ต้องหยุดชะงักลงในหลายรัฐด้วย
Haque กล่าวว่า ยูนิเซฟกำลังช่วยเหลือรัฐบาลอินเดียในการให้บริการที่สำคัญต่อเด็ก ๆ ที่มีความเปราะบางที่สุด และพยายามปกป้องเด็กกำพร้าอันเนื่องมาจากโควิด-19 ที่มีจำนวนมากขึ้นให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนการทำตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้กลับไปสู่สภาพแวดล้อมของโรงเรียนที่มีความปลอดภัย
ทั้งนี้ ยูนิเซฟได้ส่งอุปกรณ์ช่วยชีวิตไปยังอินเดีย รวมถึงเครื่องผลิตออกซิเจน ชุดตรวจเชื้อไวรัส และอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ ซึ่งหน่วยงานของเธอต้องการงบประมาณ 71 ล้านดอลลาร์เพื่อส่งมอบอุปกรณ์เพิ่มเติมไปยังประเทศที่มีความต้องการอย่างมากอีกด้วย
