ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นักวิเคราะห์ระบุว่าความรุนแรงระหว่างศาสนาในพม่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาดกฎหมายเรื่องคำปลุกปั่นให้คนเกลียดชังกัน


นักวิเคราะห์ Min Zaw Oo แห่ง Myanmar Peace Center ระบุว่าความรุนแรงระหว่างศาสนาในพม่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาดกฎหมายเรื่องคำปลุกปั่นให้คนเกลียดชังกัน ดังนั้นรัฐบาลอยู่ในภาวะยากลำบากที่จะป้องกันการห้ำหั่นกันของคนต่างศาสนา ด้านหนึ่งรัฐบาลก็ต้องหาทางจัดการกับต้นเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งก็อาจถูกกล่าวหาว่ากดขี่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คนจากความรุนแรงระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมที่เมืองเมี๊ยดทิลา (Meiktila) และความกลัวว่าความรุนแรงและการปล้นสดมภ์จะปานปลายทำให้ผู้ประกอบกิจการในเมืองที่ห่างออกไป รวมถึงย่างกุ้งต้องปิดร้านก่อนเวลา นอกจากนั้นประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่เมี๊ยดทิลาด้วย

มีรายงานว่าทหารสามารถนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนสู่เมี๊ยดทิลาได้แล้ว แต่ยังมีชาวพุทธที่เผามัสยิดและบ้านเรือนของชุมชนมุสลิม ขณะเดียวกัน นักข่าวบางคนที่พยายามเก็บภาพและถ่ายวิดีโอของเหตุการณ์แต่ถูกพระซึ่งถือมีดคุกคามไม่ให้ทำหน้าที่สื่อได้อย่างเต็มที่

อาจารย์รัฐศาสตร์ Matthew Walton แห่ง George Washington University กล่าวว่าชาวพุทธที่ไม่นิยมความรุนรงเป็นคนส่วนใหญ่ของพม่า แต่มีน้อยคนในจำนวนนั้นที่กล้าตั้งคำถามต่อความคิดรุนแรงสุดโต่งของผู้นำศาสนา

นอกจากนั้น คนยังเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะขัดขืนหรือวิจารณ์คำเรียกร้องให้ปกป้องศาสนาพุทธแม้ว่าต้องมีการใช้ความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม อาจารย์ Walton เสริมว่าสังคมพม่ายังขาดการตระหนักรู้ถึงการแพร่ข่าวลือเพื่อปลุกปั่นให่เกิดความกลัวว่าประเทศกำลังถูกคุกคามจากศาสนามุสลิม

โปรดติดตามรายละเอียดจากคลิปเรื่องนี้ในรายการข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ

รายงานโดย ห้องข่าววีโอเอและสำนักข่าวต่างประเทศ /เรียบเรียงโดยรัตพล อ่อนสนิท
XS
SM
MD
LG