ตำรวจพม่าจับกุมผู้ประท้วงอย่างน้อย 10 คนในข้อหาสนับสนุนการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของพม่า หลังจากมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินขบวนประท้วงด้วยการจุดเทียนเดินอย่างสงบในเวลากลางคืนซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านมาตรการตัดไฟฟ้าในเมืองมัณฑะเลย์
ผู้สื่อข่าวของ Voice of America ภาคภาษาพม่ายืนยันว่าผู้ประท้วงที่ถูกจับตัวไปและถูกสืบสวนอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมานั้น มีนักเขียนชาวพม่าและสมาชิกหลายคนของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยที่นางออง ซาน ซูจีเป็นหัวหน้าพรรครวมอยู่ด้วย หนึ่งในนั้นคือนายโอกาห์ ชอ กวีชาวพม่าผู้เปิดเผยว่าตำรวจพม่าต้องการทราบรายละเอียดของการประท้วงด้วยแสงเทียนดังกล่าวและต้องการรู้ว่าใครเป็นผู้นำการประท้วงครั้งนี้
เมื่อไม่นานนี้รัฐบาลพม่าได้จัดทำร่างกฎหมายฉบับใหม่ซึ่งยินยอมให้มีการเดินขบวนประท้วงได้ แต่ผู้นำหรือผู้จัดตั้งต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเสียก่อน ในขณะเดียวกันกฎหมายดังกล่าวยังอนุญาตให้มีการจับกุมผู้จัดตั้งการเดินขบวนประท้วงได้ด้วย
คุณโซ อ่อง โฆษกของกลุ่ม Forum for Democracy เห็นว่าจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายที่ว่านี้ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล กล่าวคือหากเป็นการประท้วงอย่างสงบและไม่ก่อกวนประชาชนทั่วไปก็ควรกระทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากรัฐ และรัฐบาลก็ไม่มีเหตุผลในการจับกุมผู้นำการประท้วงลักษณะนี้
การประท้วงด้วยแสงเทียนในเมืองมัณฑะเลย์นั้นเกิดขึ้นเองโดยทันทีผ่านการกระจายข้อมูลทางอินเทอร์เนต หลังจากรัฐบาลพม่าประกาศว่าจะตัดไฟเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน ปัจจุบันมีประชาชนพม่าเพียง 15 ล้านคนหรือราว 1 ใน 4 ที่มีไฟฟ้าใช้ แม้ในความเป็นจริงนั้นพม่ามีทรัพยากรมากมายที่สามารถใช้ผลิตไฟฟ้าได้ เช่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แต่ทรัพยากรส่วนใหญ่เหล่านั้นกลับถูกขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านคือจีนกับไทย
ทางด้านนักวิจัยอาวุโสขององค์การ Human Rights Watch คุณเดวิด แมทธีสัน ระบุว่าการประท้วงครั้งล่าสุดคือบททดสอบสำคัญว่ารัฐบาลพม่าจะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทั่วไปอย่างไร พร้อมชี้ว่ารัฐบาลพม่าควรตระหนักไว้ว่าการประท้วงครั้งนี้คือสัญญาณเตือนให้มีการกระจายรายได้และความมั่งคั่งสู่ประชาชนส่วนใหญ่ของพม่าอย่างเท่าเทียมมากขึ้น
การตอบสนองของรัฐบาลพม่าต่อเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างโอนอ่อนและเข้าอกเข้าใจ ในขณะที่นสพ.ของทางการพม่า New Light of Myanmar ได้เปิดเผยแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกหลายแห่งซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัทในสหรัฐ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้