ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ประธานาธิบดีพม่าเรียกร้องให้กลุ่มชนเผ่าที่กำลังต่อสู้รัฐบาล หันไปเจรจาสันติภาพกับการปกครองท้องถิ่นของแต่ละรัฐ


ประธานาธิบดีพม่าเรียกร้องให้กลุ่มชนเผ่าที่กำลังต่อสู้รัฐบาล หันไปเจรจาสันติภาพกับการปกครองท้องถิ่นของแต่ละรัฐ
ประธานาธิบดีพม่าเรียกร้องให้กลุ่มชนเผ่าที่กำลังต่อสู้รัฐบาล หันไปเจรจาสันติภาพกับการปกครองท้องถิ่นของแต่ละรัฐ

ประธานาธิบดี ติน เซน ของพม่าเรียกร้องให้กลุ่มชนเผ่าที่ต่อสู้รัฐบาลเรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองมาเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว หันไปเจรจากับการปกครองท้องถิ่นของแต่ละรัฐ ไม่ใช่รัฐบาลกลาง เพื่อยุติการสู้รบ

ประธานาธิบดี ติน เซน ของพม่าเรียกร้องให้กลุ่มชนเผ่าที่ต่อสู้รัฐบาลเรียกร้องสิทธิ์ในการปกครองตนเองมาเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว หันไปเจรจากับการปกครองท้องถิ่นของแต่ละรัฐ ไม่ใช่รัฐบาลกลาง เพื่อยุติการสู้รบที่ทำให้มีชาวพม่าพลัดถิ่นที่อยู่อาศัยมากถึง 50,000 คนแล้วในรัฐทางด้านตะวันออกและด้านเหนือของประเทศ

ประธานาธิบดีของพม่ากล่าวข้อความข้างต้นเมื่อวันพุธต่อกลุ่มนักธุรกิจและสมาชิกรัฐสภา และนอกจากจะกล่าวหาว่านักรบของชาวคะฉิ่นเป็นผู้ก่อการร้ายแล้ว ยังยืนกรานด้วยว่า ทหารของรัฐบาลดำเนินการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น

กลุ่มชนเผ่าเหล่านี้ประกอบไปด้วยชาวไทยใหญ่ในรัฐฉาน กะเหรี่ยง มอญ และคาเรนนี ซึ่งรวมตัวเป็นพันธมิตรทางการเมืองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Aung Zaw บรรณาธิการของนสพ. อิรวดีในจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า การรวมตัวของกลุ่มชนเผ่ามั่นคงกว่าที่แล้วมาในอดีต ทั้งนี้เพราะรัฐบาลพม่ายืนกรานนโยบายที่จะให้นักรบของกลุ่มชนเผ่าทำงานเป็นหน่วยตระเวณชายแดน ซึ่งตรงกันข้ามกับความมุ่งหมายในการต่อสู้ของชนเผ่าเหล่านี้ที่ต้องการการปกครองตนเอง

บก.ของนสพ. อิรวดี กล่าวว่า เราต้องการการปกครองตนเอง เราต้องการให้มีการเคารพต่อสหภาพของพม่า และคิดว่านโยบายของรัฐบาลพม่าเป็นต้นตอของปัญหา

ฝ่ายกลุ่มชนเผ่ากำหนดเงื่อนไขสำหรับการเจรจาไว้ว่า จะต้องรวมทุกชนเผ่าในกลุ่มพันธมิตร และจะเจรจากับรัฐบาลกลางเท่านั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของทางการพม่าบอกปัด

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลพม่ากับกลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ชาวคะฉิ่นต่างกล่าวหาฝ่ายตรงกันข้ามว่า เป็นฝ่ายโจมตีและละเมิดสิทธิมนุษยชน

เมื่อต้นเดือนนี้ วุฒิสมาชิกสตรีกลุ่มหนึ่งในวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า ทางการทหารของพม่าใช้การข่มขืนเป็นอาวุธในการสู้รบกับชาวคะฉิ่น รวมทั้งการโจมตีประชาชนในรัฐฉาน

Moon Nay Li โฆษกของสมาคมสตรีคะฉิ่นกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทหารพม่าดำเนินการละเมิดสิทธิ์ในหลายด้านด้วยกัน รวมทั้งการบังคับใช้แรงงาน การรุมข่มขืนเด็กหญิง ผู้หญิง และผู้ที่เกี่ยวโยงกับกองทัพคะฉิ่นถูกจับ โดยไม่มีการซักถาม ชาวบ้านมีความกลัวจึงหนีกัน

ชาวคะฉิ่นราวๆสองหมื่นคนหนีไปเข้าค่ายผู้ลี้ภัย 15 ค่ายที่อยู่ใกล้พรมแดนพม่ากับจีน ขณะเดียวกัน กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ชาวรัฐฉานให้ตัวเลขว่า มีชาวรัฐฉานมากกว่าสามหมื่นคนที่พลัดถิ่นที่อยู่ นับตั้งแต่เริ่มมีการต่อสู้ในเดือนมีนาคม

Sally Thompson รองผู้อำนวยการ Thailand Burma Border Consortium หรือ TBBC ซึ่งทำงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวพม่ามากกว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นคนในค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทย บอกว่า รัฐบาลพม่าปฏิเสธคำร้องขอจากองค์กรระหว่างประเทศที่จะเข้าไปในบริเวณห่างไกลเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในประเทศ และว่าที่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มชนเผ่า บ่งชี้ว่ามีความหวังน้อยมากที่จะมีการเจรจาสันติภาพ

เจ้าหน้าที่ของ TBBC ผู้นี้กล่าวว่า บริเวณห่างไกลเหล่านั้นค่อนข้างสงบเรียบร้อยมาก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้ไม่มีการเจรจากันมีแต่การใช้กำลัง เพราะกลุ่มชนเผ่าไม่ยอมรับงานการเป็นหน่วยตระเวณชายแดน

คาดว่าในสัปดาห์หน้า Tomas Quintana เจ้าหน้าที่สืบสวนทางด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ จะเดินทางไปเยือนพม่าและหารือกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของพม่า เพื่อประเมินสถานการณ์ทางด้านสิทธิมนุษยชนที่นั่น นับเป็นครั้งแรกในช่วงเวลากว่าหนึ่งปีที่ทางการพม่ายอมให้วีซ่าแก่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติผู้นี้

XS
SM
MD
LG