นับตั้งแต่ปี พ.ศ 2532 คลินิกแม่ตาวบริเวณพรมแดนไทย-พม่าที่ อ.แม่สอด ได้กลายมาเป็นที่พึ่งพิงด้านการแพทย์และสาธารณสุขของผู้ลี้ภัยชาวพม่าจำนวนมาก แต่ขณะนี้คลินิกแม่ตาวกำลังประสบปัญหาด้านเงินทุนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่า
สงครามระหว่างชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงกับทหารพม่า ทำให้สถานการณ์ทางฝั่งพม่าย่ำแย่มาหลายสิบปี ผู้ลี้ภัยชาวพม่าจำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทยและต้องอาศัยคลินิกแม่ตาวเป็นที่พึ่งพาทางการแพทย์ เนื่องจากไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อปีที่แล้วเจ้าหน้าที่คลินิกแม่ตาวได้ทำคลอดให้กับผู้ลี้ภัยมากกว่า 3,000 คน
แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในพม่าได้ทำให้เงินบริจาคซึ่งเป็นทุนในการปฏิบัติงานของคลินิกแม่ตาวกำลังลดน้อยลง บรรดาผู้บริจาคต่างหันไปให้เงินช่วยเหลือแก่องค์กรต่างๆในพม่าแทน ส่งผลให้การทำงานของคลินิกต่างๆตามแนวพรมแดนประสบปัญหา บริการบางอย่างต้องถูกจำกัด รวมถึงอาหารสำหรับเด็กและการรักษาพิเศษสำหรับผู้ป่วยสาหัส
เมื่อปีที่แล้ว คลินิกแม่ตาวขาดแคลนเงินงบประมาณราว 6 แสนดอลล่าร์หรือประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งคุณหมอ Cynthia Maung ผู้ก่อตั้งคลินิกแม่ตาวบอกว่าเป็นความท้าทายสำคัญที่คลินิกแม่ตาวต้องเผชิญ เนื่องจากเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือชาวพม่าจำนวนมากขึ้นที่ข้ามพรมแดนเข้ามาประเทศไทย ทั้งเพื่อหางานทำ หาความช่วยเหลือด้านการแพทย์ และการศึกษาสำหรับเด็กๆ คลินิกแห่งนี้จึงยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ลี้ภัยเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามยังมีสัญญาณที่ดีอยู่บ้าง เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของพม่า U Soe Thien เดินทางเยี่ยมเยือนคลินิกแม่ตาวเมื่อไม่นานมานี้ และให้สัญญาว่าจะหาเงินทุนเพิ่มขึ้นและจะพยายามเร่งกระบวนการจัดทำสูติบัตรสำหรับผู้ลี้ภัยชาวพม่า เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าสู่ระบบการดูแลสุขภาพของรัฐบาลพม่าเมื่อเดินทางกลับประเทศได้
รมต. U Soe Thien บอกว่าต้องการให้คุณหมอ Cynthia กลับเข้าไปจัดตั้งคลินิกในพม่า ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่สำหรับตอนนี้ขณะที่ความรุนแรงยังปรากฎทั่วไปตามแนวพรมแดน การสู้รบยังมีอยู่และเสียงปืนยังไม่สงบลง คลินิกแม่ตาวก็จะยังคงเป็นที่พึ่งเพียงแห่งเดียวของผู้บาดเจ็บและผู้ลี้ภัยที่ อ.แม่สอดต่อไป
สงครามระหว่างชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงกับทหารพม่า ทำให้สถานการณ์ทางฝั่งพม่าย่ำแย่มาหลายสิบปี ผู้ลี้ภัยชาวพม่าจำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทยและต้องอาศัยคลินิกแม่ตาวเป็นที่พึ่งพาทางการแพทย์ เนื่องจากไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อปีที่แล้วเจ้าหน้าที่คลินิกแม่ตาวได้ทำคลอดให้กับผู้ลี้ภัยมากกว่า 3,000 คน
แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในพม่าได้ทำให้เงินบริจาคซึ่งเป็นทุนในการปฏิบัติงานของคลินิกแม่ตาวกำลังลดน้อยลง บรรดาผู้บริจาคต่างหันไปให้เงินช่วยเหลือแก่องค์กรต่างๆในพม่าแทน ส่งผลให้การทำงานของคลินิกต่างๆตามแนวพรมแดนประสบปัญหา บริการบางอย่างต้องถูกจำกัด รวมถึงอาหารสำหรับเด็กและการรักษาพิเศษสำหรับผู้ป่วยสาหัส
เมื่อปีที่แล้ว คลินิกแม่ตาวขาดแคลนเงินงบประมาณราว 6 แสนดอลล่าร์หรือประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งคุณหมอ Cynthia Maung ผู้ก่อตั้งคลินิกแม่ตาวบอกว่าเป็นความท้าทายสำคัญที่คลินิกแม่ตาวต้องเผชิญ เนื่องจากเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือชาวพม่าจำนวนมากขึ้นที่ข้ามพรมแดนเข้ามาประเทศไทย ทั้งเพื่อหางานทำ หาความช่วยเหลือด้านการแพทย์ และการศึกษาสำหรับเด็กๆ คลินิกแห่งนี้จึงยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ลี้ภัยเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามยังมีสัญญาณที่ดีอยู่บ้าง เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของพม่า U Soe Thien เดินทางเยี่ยมเยือนคลินิกแม่ตาวเมื่อไม่นานมานี้ และให้สัญญาว่าจะหาเงินทุนเพิ่มขึ้นและจะพยายามเร่งกระบวนการจัดทำสูติบัตรสำหรับผู้ลี้ภัยชาวพม่า เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าสู่ระบบการดูแลสุขภาพของรัฐบาลพม่าเมื่อเดินทางกลับประเทศได้
รมต. U Soe Thien บอกว่าต้องการให้คุณหมอ Cynthia กลับเข้าไปจัดตั้งคลินิกในพม่า ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่สำหรับตอนนี้ขณะที่ความรุนแรงยังปรากฎทั่วไปตามแนวพรมแดน การสู้รบยังมีอยู่และเสียงปืนยังไม่สงบลง คลินิกแม่ตาวก็จะยังคงเป็นที่พึ่งเพียงแห่งเดียวของผู้บาดเจ็บและผู้ลี้ภัยที่ อ.แม่สอดต่อไป
