พ่อแม่อเมริกันสมัยใหม่รู้สึกผิดจากการตั้งชื่อลูกมากขึ้นเพราะมีชื่อให้เลือกเพิ่มขึ้น

คุณ Laura Wattenberg ผู้เขียนหนังสือ The Baby Name Wizard ระบุว่าที่ผ่านมามีงานวิจัยหลายชิ้นที่บ่งชี้ถึงผลกระทบจากการตั้งชื่อลูกที่มีต่อตัวเด็กเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เช่นเด็กผู้ชายที่มีชื่อเหมือนเด็กผู้หญิงมีโอกาสสูงที่จะมีปัญหาด้านความประพฤติในโรงเรียน หรือคนที่มีชื่อซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนอเมริกันผิวขาว มักมีโอกาสถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งานมากกว่าคนที่มีชื่อคล้ายกับคนอเมริกันผิวดำ อ้างอิงจากรายงานสถิติของสำนักวิจัยทางเศรษฐศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ นอกจากนี้ ยังมีรายงานที่ว่าชื่อของลูกสามารถบ่งบอกถึงบุคลิกลักษณะของคุณพ่อคุณแม่ได้

คุณ Laura Wattenberg ระบุว่าปัจจุบันการตั้งชื่อลูกจึงมีความสำคัญมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพราะพ่อแม่อยากให้ลูกมีชื่อแตกต่างจากเด็กคนอื่นหรือเพราะในอเมริกามีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมมากขึ้นก็ตาม ด้วยเหตุนี้หนังสือแนะนำชื่อลูกจึงหนาขึ้นทุกปีๆ บางเล่มมีชื่อลูกให้เลือกมากกว่า 140,000 ชื่อ

แต่คุณ Barry Schwartz นักจิตวิทยาที่ Swarthmore College ชี้ว่าทางเลือกที่มากขึ้นกลับทำให้พ่อแม่มีความกดดันมากขึ้นในการตั้งชื่อลูก ซึ่งเรียกลักษณะแบบนี้ว่า “ความขัดแย้งของทางเลือก” และแม้คุณพ่อคุณแม่จะคิดว่าตนเลือกชื่อที่ที่สุดให้กับลูกแล้วก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดความรู้สึกผิดในอนาคตได้

ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็เช่นเด็กที่มีชื่อโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อาจมีปัญหาเรื่องชื่อสะกดยาก ในขณะที่ชื่อที่จำง่ายๆหรือชื่อซึ่งเป็นที่นิยมทั่วไปอาจเหมาะกับเด็กมากกว่า และมีรายงานว่าเด็กที่มีชื่อแปลกๆ อาจมีปัญหาในการเรียนหรืออาจได้รับความนิยมน้อยกว่าเพื่อนร่วมชั้นระดับประถมคนอื่นๆ

สำหรับชื่อลูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว 5 อันดับแรกของทั้งชายและหญิงมีดังนี้

ชื่อเด็กผู้ชาย 1. Aiden 2. Jackson 3. Mason 4. Liam 5. Jacob

ชื่อเด็กผู้หญิง 1. Sophia 2. Emma 3. Isabella 4. Olivia 5. Ava