ศาสตราจารย์ Richard Betts ผู้เชี่ยวชาญแห่งมหาวิทยาลัย Exeter กล่าวว่าปรากฏการณ์เอลนีลโญ่ว่ามีส่วนให้ระดับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกสูงขึ้น
ศาสตราจารย์ Betts กล่าวว่าปรากฏการณ์เอลนีลโญ่ทำให้ระบบนิเวศวิทยาในเขตร้อนอุ่นและแห้งขึ้น ลดความสามารถของระบบนิเวศวิทยาในการดูดซับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ลง และทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงขึ้น
การวิจัยนี้สำคัญเพราะศาสตราจารย์ Betts และทีมงานสามารถพยากรณ์ผลกระทบที่สำคัญนี้มากได้ล่วงหน้า Ben Poulter นักวิทยาศาสตร์แห่งองค์การสำรวจอวกาศแห่งสหรัฐหรือ NASA กล่าวว่าตนเองได้ดูข้อมูลตัวเลขนี้แล้วและทึ่งมากที่ทีมนักวิจัยทีมนี้สามารถพยากรณ์เรื่องนี้ได้ในปี 2015
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นแก๊สที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และมีอยู่ไม่มากนักในชั้นบรรยากาศโลก เป็นส่วนประกอบเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของชั้นบรรยากาศโลก แต่ปริมาณ CO2 เพียงเล็กน้อยกลับมีผลกระทบใหญรุนแรงแก่โลก สำนักงานทะเลวิทยาและชั้นบรรยากาศโลกเเห่งสหรัฐฯ หรือ NOAA ชี้ว่า หากไม่มีแก๊สเรือนกระจก อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกจะต่ำกว่าจุดเยือกเเข็ง
แต่หากเรามีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นในชั้นบรรยากาศ ความร้อนก็จะยิ่งถูกกักเอาไว้ในชั้นบรรยากาศมากยิ่งขึ้นและทำให้โลกยิ่งอุ่นขึ้นไปอีก มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าระดับแก๊ส CO2 ไม่ได้เพิ่มขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุ ก่อนหน้ายุคอุตสาหกรรม ระดับเเก๊สชนิดนี้อยู่ที่ 280 ส่วนต่อล้านส่วน และเมื่อ NOAA เริ่มตรวจวัดระดับเเก๊สตัวนี้ครั้งแรก พบว่าระดับเเก๊สในชั้นบรรยากาศโลกอยู่ที่ 315 ส่วนต่อล้านส่วน บรรดานักวิทยาศาสตร์ชี้ว่ากิจกรรมของมนุษย์มีบทบาทในการเพิ่มปริมาณเเก๊ส CO2 ในชั้นบรรยากาศโลก
สำหนักงาน NOAA ระบุว่าระดับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกที่สูงขึ้นทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ฝนขาดช่วง พื้นที่ฝนเเล้งขยายกว้างขึ้น เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงบ่อยขึ้นและเกิดภาวะฝนตกหนักรุนแรงมากขึ้น
ในบางส่วนของโลก อาจจะมีฝนตกมากขึ้น บางพื้นที่อาจเเห้งแล้งขึ้นและเหตุการณ์เหล่านี้กำลังเกิดขึ้นเเล้ว ปัญหานี้กำลังเลวร้ายลงเพราะปริมาณเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่มากเกินไปไปสะสมอยู่ในน้ำทะเลและทำให้น้ำทะเลเป็นกรดมากขึ้น
Ben Poulter นักวิทยาศาสตร์แห่งองค์การสำรวจอวกาศแห่งสหรัฐกล่าวว่าผลการศึกษานี้ยังแสดงให้เห็นว่าสังคมโลกกำลังมุ่งหน้าไปสู่การแก๊ส CO2 ในระดับอันตรายอย่างรวดเร็ว ทางด้านสำนักงานเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development) แนะว่าเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการป้องกันไม่ให้ระดับ CO2 ในชั้นบรรยากาศโลกสูงเกิน 450 ส่วนต่อล้านส่วน ซึ่งจะช่วยรักษาไม่ให้อุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นเป้าหมายที่สนธิสัญญาว่าด้วยภาวะโลกร้อนตั้งเอาไว้
และเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายนี้ คนเราต้องค่อยๆ ลดการใช้ถ่านหินลงจนเลิกใช้ในที่สุดและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลง Ben Poulter นักวิทยาศาสตร์แห่งองค์การสำรวจอวกาศแห่งสหรัฐฯ กล่าวว่าความพยายามลดระดับการปล่อยเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และเเก๊สเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศต้องเริ่มต้นเสียตั้งเเต่ตอนนี้เพราะไม่เช่นนั้นโลกเราจะมีระดับเเก๊ส CO2 ในชั้นบรรยากาศที่ 450 ส่วนต่อล้านส่วนภายใน 15-20 ปีข้างหน้า
รายงานโดย Kevin Enochs เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน
