รายงานของทางสถาบัน ระบุว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมีอัตรการการว่างงานที่ึ 7.1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อัตราการว่างงานระดับชาติอยู่ที่ 8.1เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลล่าสุดนี้ชี้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่ตกงาน ไม่มีงานทำนานเกินกว่าหกเดือนเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 48.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อสองปีที่แล้ว
ส่วนอัตราการว่างงานที่นานเกินหกเดือนในกลุ่มชาวอเมริกันผิวขาวอยู่ที่ 42.4 เปอร์เซ็นต์คนอเมริกันผิวดำอยู่ที่ 49.9เปอร์เซ็นต์ และชาวอเมริกันเชื้อสายอเมริกาใต้อยู่ที่ 39.8 เปอร์เซ็นต์
ในภาพยนตร์และในสื่อมวลชน ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย มีภาพลักษณ์ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการศึกษาสูงและประสบความสำเร็จมากในหน้าที่การงานในอเมริกา แต่ในรายงานล่าสุดของ สถาบัน Economic Policy Institute คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียกลับตกงานกันมากที่สุด ไม่เว้นแม้แต่คนที่ได้รับการศึกษาสูงๆ
รายงานของทางสถาบันพบว่า เมื่อปีที่แล้ว ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เรียนจบระดับปริญญาตรีตกงานในอัตรา 6.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ชาวอเมริกันผิวขาวที่มีการศึกษาระดับเดียวกันตกงานในอัตราต่ำกว่า หรือที่ 4.3 เปอร์เซ็นต์
คุณ Marlene Kim ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแมสสาชูเซ็ทส์ในบอสตั้นเป็นสมาชิกทีมวิจัยเรื่องนี้ ศาสตราจารย์คิม กล่าวว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่ผลักดันเรื่องนี้
อย่างแรก เธอบอกว่าหลักแหล่งทางภูมิประเทศมีส่วนเรื่องเปอร์เซ็นต์การตกงาน เกือบหนึ่งในสามของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียทั้งหมดอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีอัตราการว่างงานโดยรวมทั้งหมดที่ 10.9 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยที่สอง สำหรับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เกิดและโตในต่างประเทศ ประสบความท้าทายด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ นายจ้างอาจจะเลือกจ้างชาวอเมริกันโดยกำเนิดมากกว่าว่าจ้างชาวอเมริกันที่ได้รับสัญชาติจากการโยกย้ายถิ่นฐาน
ส่วนปัจจัยสุดท้าย ศาสตราจารย์ Kim นักวิจัยกล่าวว่าน่าจะเป็นเรื่องของความลำเอียงทางเชื้อชาติ เธอบอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ามีหลักฐานที่ชี้ว่านายจ้างมีึความลำเอียงกับชาวเอเชียที่มีการศึกษาสูงเพราะคนเหล่านี้ถูกมองว่าเกิดและโตในต่างประเทศ ขาดความสามารถด้านภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมและสังคมจากคนอเมริกันโดยกำเินิด
ทางด้านคุณ Tuyet Le ผู้อำนวยการบริหารแห่งสถาบัน Asia-American Institute ในชิคาโก้ ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้ว่า ผลการศึกษาเรื่องปัญหาการตกงานชิ้นนี้ ท้าทายผู้ออกนโยบายในอเมริกาให้หวนคำนึงถึงเรื่องชนกลุ่มน้อย และเริ่มศึกษาปัญหาการกีดกันทางเชื้อชาติ ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียไม่ให้ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
ส่วนคุณ Shirley Lin ทนายความแห่ง Asian-American Legal Defense and Education Fund กล่าวว่า การกีดกันคนอเมริกันเชื้อชาติเอเชียอาจผลักดันให้คนเหล่านี้ต้องยอมทำงานในอุตสาหกรรมที่ให้ค่าแรงต่ำและต้องทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน
ส่วนอัตราการว่างงานที่นานเกินหกเดือนในกลุ่มชาวอเมริกันผิวขาวอยู่ที่ 42.4 เปอร์เซ็นต์คนอเมริกันผิวดำอยู่ที่ 49.9เปอร์เซ็นต์ และชาวอเมริกันเชื้อสายอเมริกาใต้อยู่ที่ 39.8 เปอร์เซ็นต์
ในภาพยนตร์และในสื่อมวลชน ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย มีภาพลักษณ์ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการศึกษาสูงและประสบความสำเร็จมากในหน้าที่การงานในอเมริกา แต่ในรายงานล่าสุดของ สถาบัน Economic Policy Institute คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียกลับตกงานกันมากที่สุด ไม่เว้นแม้แต่คนที่ได้รับการศึกษาสูงๆ
รายงานของทางสถาบันพบว่า เมื่อปีที่แล้ว ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เรียนจบระดับปริญญาตรีตกงานในอัตรา 6.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ชาวอเมริกันผิวขาวที่มีการศึกษาระดับเดียวกันตกงานในอัตราต่ำกว่า หรือที่ 4.3 เปอร์เซ็นต์
คุณ Marlene Kim ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแมสสาชูเซ็ทส์ในบอสตั้นเป็นสมาชิกทีมวิจัยเรื่องนี้ ศาสตราจารย์คิม กล่าวว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่ผลักดันเรื่องนี้
อย่างแรก เธอบอกว่าหลักแหล่งทางภูมิประเทศมีส่วนเรื่องเปอร์เซ็นต์การตกงาน เกือบหนึ่งในสามของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียทั้งหมดอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีอัตราการว่างงานโดยรวมทั้งหมดที่ 10.9 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยที่สอง สำหรับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เกิดและโตในต่างประเทศ ประสบความท้าทายด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ นายจ้างอาจจะเลือกจ้างชาวอเมริกันโดยกำเนิดมากกว่าว่าจ้างชาวอเมริกันที่ได้รับสัญชาติจากการโยกย้ายถิ่นฐาน
ส่วนปัจจัยสุดท้าย ศาสตราจารย์ Kim นักวิจัยกล่าวว่าน่าจะเป็นเรื่องของความลำเอียงทางเชื้อชาติ เธอบอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ามีหลักฐานที่ชี้ว่านายจ้างมีึความลำเอียงกับชาวเอเชียที่มีการศึกษาสูงเพราะคนเหล่านี้ถูกมองว่าเกิดและโตในต่างประเทศ ขาดความสามารถด้านภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมและสังคมจากคนอเมริกันโดยกำเินิด
ทางด้านคุณ Tuyet Le ผู้อำนวยการบริหารแห่งสถาบัน Asia-American Institute ในชิคาโก้ ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้ว่า ผลการศึกษาเรื่องปัญหาการตกงานชิ้นนี้ ท้าทายผู้ออกนโยบายในอเมริกาให้หวนคำนึงถึงเรื่องชนกลุ่มน้อย และเริ่มศึกษาปัญหาการกีดกันทางเชื้อชาติ ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียไม่ให้ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
ส่วนคุณ Shirley Lin ทนายความแห่ง Asian-American Legal Defense and Education Fund กล่าวว่า การกีดกันคนอเมริกันเชื้อชาติเอเชียอาจผลักดันให้คนเหล่านี้ต้องยอมทำงานในอุตสาหกรรมที่ให้ค่าแรงต่ำและต้องทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน
