ชนต่างรุ่นของเกาหลีใต้มีปฏิกิริยาต่อคำขู่ และท่าทีที่แข็งกร้าวจากเกาหลีเหนือแตกต่างกันไป จากกรณีที่รัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวโทษเกาหลีเหนือว่า เป็นผู้จมเรือลาดตระเวณเชิน-อันเมื่อเดือนมีนาคม และเกาหลีเหนือขู่ว่ามาตรการตอบโต้ใดๆ อาจทำให้เกิดสงครามขึ้นได้ คือในขณะที่คนมีอายุ หรือผู้ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์จากสงครามเกาหลีมาก่อน จะมีท่าทีสนับสนุนรัฐบาลเกาหลีใต้และต้องการให้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดมากขึ้น
แต่คนหนุ่มสาวของเกาหลีใต้ ในช่วงอายุ 20 -30 ปี หรือที่มักเรียกกันว่าคนแห่งรุ่นสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง หรือ P-Generation นั้นจะไม่วิตกหรือหวาดผวากับคำขู่ของเกาหลีเหนือเท่าใดนัก เนื่องจากมักได้ยินคำขู่ลักษณะนี้มาบ่อยครั้งแล้ว นักศึกษาเกาหลีใต้คนหนึ่งบอกว่าเพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ของตนรู้สึกกังวลกับเรื่องภัยจากเกาหลีเหนือ แต่ชาวเกาหลีใต้เองกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องนี้
สงครามเกาหลีเมื่อราว 60 ปีที่แล้วสร้างความเสียหายจำนวนมาก และทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนคนบนคาบสมุทรเกาหลี และตั้งแต่การหยุดยิงเมื่อปี 2496 เป็นต้นมา ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลงสันติภาพระหว่างสองเกาหลี แต่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงและการปะทะกันเป็นครั้งคราว นักหนังสือพิมพ์ของเกาหลีใต้คนหนึ่งในวัยราว 60 ปีบอกว่า หลังจากที่เกาหลีใต้พ้นจากการปกครองด้วยระบอบทหารเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว ได้มีการยกเลิกการให้การศึกษาเพื่อต่อต้านลัทธิคอมมิวนิตส์ และนักวิเคราะห์สังคมบางคนชี้ว่า มีการนำหลักสูตรที่เอียงซ้ายแนวชาตินิยมมาสอนแทน เป็นผลให้คนรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้หันมาต่อต้านฐานทัพสหรัฐฯ และการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ มากกว่าที่จะตำหนิการที่เกาหลีเหนือจมเรือลาดตระเวณเชิน-อันของเกาหลีใต้ และผลการสำรวจความเห็นแสดงด้วยว่ามีชาวเกาหลีใต้ราว 20 เปอร์เซ็นที่ไม่เชื่อว่า เกาหลีเหนือเป็นผู้รับผิดชอบในการจมเรือลาดตระเวณดังกล่าว เพราะคนเหล่านี้ไม่เชื่อรัฐบาล และมองว่าการตำหนิพฤติกรรมของเกาหลีเหนือ เป็นความพยายามที่จะชุบชีวิตการให้การศึกษาแบบต่อต้านคอมมิวนิตส์กลับขึ้นมาอีกครั้ง
