เกาหลีเหนือกำลังดำเนินการยึดทรัพย์สิน ของเกาหลีใต้ในเขตท่องเที่ยวร่วมกัน

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ กับเกาหลีใต้ตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังจากที่กองทัพเรือเกาหลีใต้จมในบริเวณใกล้พรมแดนทางทะเล ซึ่งเป็นกรณีพิพาทกันอยู่เมื่อเดือนที่แล้วนั้น เกาหลีเหนือกำลังดำเนินการยึดทรัพย์สิน ของเกาหลีใต้ในเขตท่องเที่ยวร่วมกัน โดยอ้างถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และอาจยึดทรัพย์สินของเกาหลีใต้เพิ่มอีก

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยึดทรัพย์สินของเกาหลีใต้ 5 แห่งในบริเวณสถานตากอากาศเขาคุมกังในเขตท่องเที่ยวร่วมกันของเกาหลีทั้งสอง ทางการเกาหลีเหนือกล่าวว่า จะยึดทรัพย์สินของเกาหลีใต้ส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดในบริเวณนั้น และจะขับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการของเกาหลีใต้ออกจากเขตดังกล่าว เกาหลีเหนือกล่าวว่า จะเข้าครอบครองทรัพย์สินเหล่านั้นไว้เอง หรือไม่ก็จะส่งมอบให้แก่ฝ่ายจัดการใหม่จากประเทศอื่น

เกาหลีเหนือดำเนินการดังกล่าว โดยอ้างถึงกรณีที่เรือรบของเกาหลีใต้ลำหนึ่งที่จมในน่านน้ำพรมแดนระหว่างประเทศทั้งสอง ที่เป็นกรณีพิพาทกันอยู่ ขณะที่กำลังมีการสอบสวนรื่องนี้อยู่นั้น เจ้าหน้าที่หลายคนในเกาหลีใต้กล่าวคาดคะเนว่า เรือลำนั้นอาจจมเนื่องจากถูกตอร์ปีโดหรือทุ่นระเบิดของเกาหลีเหนือ แม้ว่าเกาหลีใต้จะไม่ได้กล่าวหาเกาหลีเหนือโดยตรง แต่เกาหลีเหนือกล่าวหาเกาหลีใต้ว่า นำเรื่องกรณีที่เรือของตนจมมาเกี่ยวโยงกับเกาหลีเหนือ

ส่วนทางด้านเกาหลีใต้นั้น เจ้าหน้าที่กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้กล่าวว่า การที่เกาหลีเหนือยึดทรัพย์สินของเกาหลีใต้ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้และไม่ยุติธรรม และว่าการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบไร้เหตุผลของเกาหลีเหนือ เป็นอุปสรรคขัดขวางการพยายามดำเนินงานของเกาหลีใต้ที่จะประกันความปลอดภัยที่เขตการท่องเที่ยวเขาคุมกังโดยสิ้นเชิง และว่าการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมายนั้น ยังความเสียหายแก่สัมพันธภาพระหว่างประเทศทั้งสอง และเกาหลีใต้จะต้องดำเนินการแข็งกร้าวในการจัดการกับเรื่องนี้

เกาหลีใต้สร้าง และให้ทุนการดำเนินงานเขตการท่องเที่ยวเขาคุมกังเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสอง หลังจากที่การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2543 ทำให้เกาหลีทั้งสองมีความใกล้ชิดกันขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางปี 2551 เกาหลีใต้ระงับการท่องเที่ยวในเขตนั้น หลังจากที่ทหารเกาหลีเหนือคนหนึ่ง ยิงผู้หญิงเกาหลีใต้คนหนึ่งที่ไปเที่ยวเขตนั้นและดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นพลัดหลงออกไปนอกเขตท่องเที่ยวดังกล่าว เกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มีการท่องเที่ยวเขตนั้นอีกจนกว่าเกาหลีเหนือ จะขออภัยและร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว และดำเนินการเพื่อรับประกันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก แต่เกาหลีเหนือกล่าวว่า ตนได้ดำเนืนการเพียงพอแล้วในการช่วยแก้ความวิตกของเกาหลีใต้

ความตึงเครียดเกี่ยวกับเขตการท่องเที่ยวเขาคุมกัง ทวีความรุนแรงขึ้นในเวลาไม่กี่เดือนมานี้ ขณะที่เกาหลีเหนือเคว้งคว้างเนื่องจากความล้มเหลว จากการพยายามปฏิรูปเงินตราของตน ทางการเกาหลีเหนือกดดันหนักขึ้น ให้เกาหลีใต้ยินยอมให้กลับมีการท่องเที่ยวในเขตเขาคุมกัง ซึ่งเป็นธุรกิจทำรายได้ให้เกาหลีเหนือปีละหลายล้านดอลลาร์

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ท่าทีของเกาหลีเหนืออาจทำให้สถานการณ์เสื่อมทรุดลงไป สำหรับเศรษฐกิจที่ขาดเงินสดของเกาหลีเหนือเอง เพราะเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ ในการดึงดูดการลงทุนของต่างประเทศจากโลกภายนอก

นอกจากนั้น ทรัพย์สินที่เกาหลีเหนือยึดไป มีศูนย์เพื่อการรวมครอบครัวชาวเกาหลีที่พลัดพรากจากกันสมัยสงครามเกาหลีราว 60 ปีมาแล้วที่สภากาชาดตั้งขึ้นรวมอยู่ด้วย ชาวเกาหลีเหล่านั้นจำนวนมากอายุเกิน 70 ปีแล้ว การยึดศูนย์ดังกล่าว ทำให้ลู่ทางความหวังที่สมาชิกในครอบครัวที่พลัดพรากกันจะได้กลับมาพบมารวมกันใหม่ริบหรี่ลงไปอีก