อิสราเอลได้ปิดล้อมการเข้าสู่บริเวณฉนวนกาซ่าทางทะเลมาตั้งแต่ปี 2550 เพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงอาวุธเข้าไปในพื้นที่ หลังจากที่กลุ่มชาวปาเลสไตนหัวรุนแรงฮามาส ซึ่งไม่ยอมรับสิทธิในการคงอยู่ของประเทศอิสราเอลใช้ดินแดนดังกล่าว เป็นฐานเพื่อยิงจรวดโจมตีอิสราเอล แต่นักวิเคราะห์ด้านตะวันออกกลางกล่าวว่า การที่หน่วยคอมมานโดอิสราเอลบุกเข้าจู่โจมขบวนเรือ ซึ่งนำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังฉนวนกาซ่า และเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายคนนั้น ได้สร้างปัญหาให้กับทั้งอิสราเอลและสหรัฐ และส่งผลเสียต่อกระบวนการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนททันยาฮูของอิสราเอลยกเลิกการเยือนสหรัฐฯในช่วงต้นเดือนมิถุนายน และนายกรัฐมนตรีของตรุกี ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิสราเอลก็กล่าวว่า อิสราเอลควรถูกลงโทษจากสิ่งที่เขาเรียกว่า การสังหารหมู่ที่นองเลือดครั้งนี้ อย่างไรก็ตามโฆษกของรัฐบาลอิสราเอลยืนยันว่า การปิดกั้นฉนวนกาซ่าทางทะเลนี้เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อรักษาความมั่นคงและปกป้องเรื่องความเป็นความตายของอิสราเอล และว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ก่อผลเสียต่อกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ผู้หนึ่งของหน่วยงานวิเคราะห์ข่าวกรองของเอกชนชื่อ STRATFOR มองว่ากลุ่มนักรณรงค์ที่สนับสนุนสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ต้องการใช้การส่งขบวนเรือ นำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังฉนวนกาซ่าเพื่อฝ่าฝืนการปิดล้อม และสร้างหลุมพรางล่อเพื่อให้เหตุการณ์ระหว่างประเทศขึ้น และทำให้อิสราเอลต้องเข้าไปติดกับ ในขณะนี้กลุ่มนักกิจกรรมเพื่อชาวปาเลสไตน์ได้กล่าวด้วยว่า พวกตนจะพยายามฝ่าฝืนการปิดล้อมฉนวนกาซ่าทางทะเล ของอิสราเอลอีกครั้งในไม่ช้า
