สิงค์โปร์ถูกกล่าวหาว่า พยายามหาซื้อดินและทรายราคาถูกจากประเทศอื่น มาถมลงทะเล เพื่อขยายพื้นที่แถบชายฝั่งของตน
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา สิงคโปร์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เล็กที่สุด และร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ถูกกล่าวหาว่า พยายามหาซื้อดินและทรายราคาถูกจากประเทศอื่น มาถมลงทะเล เพื่อขยายพื้นที่แถบชายฝั่งของสิงคโปร์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กลุ่มตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมกลุ่มหนึ่งชี้ว่า ได้เป็นชนวนให้เกิดปัญหาด้านการคอรัปชั่น และการทำลายสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นในกัมพูชา
ผู้ตรวจสอบของกลุ่ม Global Witness เปิดเผยข้อมูลการส่งออกทรายปริมาณมหาศาล จากจังหวัดเกาะกง ทางใต้ของกัมพูชา แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สั่งห้ามส่งออกทรายแล้วก็ตาม Global Witness ชี้ว่าทรายจากกัมพูชาถูกส่งไปยังสิงคโปร์ เพื่อใช้ในโครงการถมทะลเพื่อปรับปรุงพื้นที่ชายฝั่ง และโครงการก่อสร้างต่างๆ
คุณ Eleanor Nichol เจ้าหน้าที่อาวุโสของ Global Witness ระบุว่าทางชาวบ้านในกัมพูชา บอกกับผู้ตรวจสอบว่า การขุดทรายไปขายเป็นตัวการทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะระบบนิเวศน์แถบชายฝั่งของกัมพูชา
คุณ Nichol ชี้ว่ามีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า บรรดาชาวประมงแถบภาคใต้ของกัมพูชา เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบของการขุดลอกทราย ที่ทำให้จำนวนปลาลดลง เธอยังบอกด้วยว่า ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การคอรัปชั่นในรัฐบาลกัมพูชา เนื่องจากสัญญากาซื้อขายทรายนั้น ตกลงกับแบบลับๆ กับสมาชิกวุฒิสภากัมพูชาเพียง 2 คนที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา คุณ Nichol กล่าวว่าธุรกิจการขุดลอกทรายนั้น เป็นธุรกิจใหญ่ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าราว 28 ล้านดอลล่าร์ต่อปี แต่การทำข้อตกลงหรือให้สัมปทานแบบลับๆ เช่นนั้น ทำให้ไม่สามารถหาทางรับรองได้ว่า รายได้หรือผลประโยชน์จากการขายทราย จะตกมาถึงคนยากจนในกัมพูชาบ้างหรือไม่
เจ้าหน้าที่อาวุโสของ Global Witness บอกว่า รายได้จากการส่งออกทรายนั้น ถือเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับประเทศที่ยากจน อย่างกัมพูชาซึ่งยังต้องพึ่งพาเงินบริจาคจากต่างชาติ และเป็นเงินก้อนใหญ่ ที่ไม่มีการแสดงในบัญชีทรัพย์สินของรัฐบาล
ทางด้านเจ้าหน้าที่กัมพูชาปฏิเสธว่า ไม่มีการขายทรายให้แก่สิงคโปร์แต่อย่างใด วุฒิสมาชิก Mong Rithy คือผู้หนึ่งที่ยืนยันว่าไม่มีการขายทรายให้แก่สิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์ไม่ต้องการทรายจากกัมพูชา
วุฒิสมาชิก Rithy บอกว่า ในความเป็นจริง ตนเพียงแค่ให้สัมปทานการขุดลอกคลอง ในแถบจังหวัดเกาะกง เพื่อให้เรือสามารถเข้าออกได้สะดวกขึ้น และว่าทรายที่เกาะกงส่วนใหญ่เป็นดินโคลน ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของตลาด และสิงคโปร์ก๋ไม่คิดจะซื้อทรายนั้น ในขณะเดียวกัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชาโต้ตอบว่า รายงานของ Global Witness ชิ้นนี้เป็นการมองด้านเดียว และมีแรงจูงใจทางการเมืองเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม คุณ Nichol แห่ง Global Witness ขอให้ประเทศผู้บริจาคเงินช่วยเหลือกัมพูชา ในฐานะที่เป็นผู้ให้เงินทุนที่คิดเป็นมูลค่าราว 50% ของงบประมาณทั้งหมดของกัมพูชาในแต่ละปี ควรพิจารณาให้ดีว่า กัมพูชากำลังทำลายทรัพยากรในประเทศหรือไม่