ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การเปลี่ยนแปลงในสังคมของประเทศอินโดนีเซีย


การเปลี่ยนแปลงในสังคมของประเทศอินโดนีเซีย
การเปลี่ยนแปลงในสังคมของประเทศอินโดนีเซีย

อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก แต่หลังยุคสมัยของผู้เผด็จการ Suharto และการมีระบบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะเสรีภาพทางศาสนา กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมของประเทศ

ในงานนิทรรศการหนังสือในกรุงจาการ์ต้าเมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าของสำนักพิมพ์ Afrizal Sinaro บอกว่าหนังสือขายดีที่สุด คือคู่มือการดำรงชีวิตของชาวมุสลิมเคร่งศาสนา

เจ้าของสำนักพิมพ์และนายกสมาคม ผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของกรุงจาการ์ต้า บอกว่า ผู้อ่านเริ่มหันมาให้ความสนใจกับหนังสือ เกี่ยวกับศาสนาอิสลามเมื่อสัก 12 ปีที่แล้วในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่การหมดอำนาจของรัฐบาลชุดประธานาธิบดี Suharto

ในช่วงเวลาทุกข์ยากเช่นนั้น นาย Sinaro ให้ความเห็นว่า ศาสนาเป็นเครื่องปลอบใจ และว่ายอดขายหนังสือประเภทนี้เพิ่มขึ้นมาทุกปี เขาเปิดเผยด้วยว่า ราวๆ 40% ของงานพิมพ์ในหมู่สมาชิกสมาคมของเขานั้น เป็นหนังสือเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม

นอกจากหนังสือที่ว่านี้แล้ว ประชาธิปไตยในอินโดนีเซียยังเปิดโอกาส ให้ขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างประเทศอย่าง Hizb-ut-Thahrir เข้าไปเผยแพร่อุดมการณ์ของกลุ่มในประเทศได้ด้วย Hizb-ut-Thahrir มุ่งหมายจะสถาปนาระบบการปกครอง ที่ใช้กฎของศาสนาอิสลามเป็นหลัก และมีกษัตริย์ หรือกาหลิบเป็นผู้ปกครองขึ้นทั่วโลก

วารสาร Al-Islam ของกลุ่ม ซึ่งเคยตีพิมพ์สัปดาห์ละ 500 ฉบับ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เวลานี้ จำนวนพิมพ์เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ละ 1 ล้านสองแสนฉบับ และเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีผู้คนสนใจไปร่วมการสัมนาของกลุ่มในกรุงจาการ์ต้ามากถึง 1 แสนคน

นาย Ismail Yusanto โฆษกของกลุ่ม Hizb-ut-Thahrir บอกว่า ไม่มีโอกาสจะทำอย่างนั้นได้ในสมัยประธานาธิบดี Suharto แต่เวลานี้มีผู้คนยอมรับแนวความคิด ของพวกเขามากขึ้นเมื่อได้รับการชี้แนะแนวว่า ความคิดเหล่านี้อยู่ในพระคัมภีร์ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น การใช้ผ้าคลุมศีรษะของผู้หญิง

นาย Din Syamsuddin ประธานขององค์กร Muhammadiyah ซึ่งเป็นหนึ่งในสองขององค์กรศาสนาเก่าแก่ของอินโดนีเซีย ยอมรับว่า ทางองค์กรไม่เคร่งครัด จึงเป็นไปได้ที่ผู้ที่อยู่ในองค์กรได้รับอิทธิพล จากภายนอกที่ตามมาพร้อมๆกับโลกาภิวัฒน์ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาและความขัดแย้งภายในประเทศได้

อย่างไรก็ตาม ความเคร่งศาสนาที่เกิดขึ้น ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มบุคคลบางส่วนเท่านั้น ความพยายามที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่ ทางศาสนาสำหรับสถาบันภาครัฐ ยังไม่ประสบความสำเร็จ และเพียง 22% ของประชาชนสนับสนุนการเปลี่ยนระบบการปกครอง ที่รับประกันเสรีภาพทางศาสนาให้หันไปใช้กฎของศาสนาแทนที่

แต่อิทธิพลทางสังคม โดยเฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เพลง หรือภาพยนตร์นั้น มีส่วนที่เป็นศาสนาเพิ่มมากขึ้นทุกที

ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า อิทธิพลนั้นจะจำกัดวงเป็นเสมือนแฟชั่นที่เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ หรือจะฝังรากลึกและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานขึ้นได้




XS
SM
MD
LG