ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับกัมพูชามากขึ้น ทั้งในด้านการลงทุน ซึ่งมีมูลค่าราวหกพันล้านดอลล่าร์ และการให้เงินช่วยเหลือ และเงินกู้อีกราวสองพันล้านดอลล่าร์
โดยกัมพูชานั้น เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และระบบเศรษฐกิจของกัมพูชามีมูลค่าราวหนึ่งหมื่นล้านดอลล่าร์ต่อปี แต่ในขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซนแสดงความยินดีต่อการลงทุน และความช่วยเหลือจากจีน โดยบอกว่าเป็นความช่วยเหลือซึ่งไม่มีเงื่อนไขและปราศจากการแทรกแซงเหมือนของประเทศอื่น นักวิเคราะห์ได้ชี้ว่าประโยชน์จากการลงทุนของจีน ในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชามักตกเป็นของบริษัทรัฐวิสาหกิจของจีนซึ่งปราศจากความโปร่งใส และการตรวจสอบของสาธารณชน
ยิ่งกว่านั้นนักกิจกรรมผู้รณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชนของกัมพูชายังชี้ว่า การลงทุนจากจีนมีผลต่อสภาพแวดล้อม รวมทั้งต่อความพยายามสร้างธรรมาภิบาลของรัฐบาลกัมพูชาด้วย นักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนยังชี้ด้วยว่าจีนนั้นติดอันดับที่ 79 ในบรรดา 180 ประเทศจากการสำรวจเรื่องคอรัปชั่นของหน่วยงาน Transparency International และว่ากัมพูชาน่าจะมีตัวอย่างที่ดีกว่าจีน เพื่อเรียนรู้เรื่องความโปร่งใส สิทธิมนุษยชน ธรรมาภิบาล และการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตยของประชาชน
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจำเริญ ตัณฑ์สมบุญ