ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ในขณะนี้กำลังมีการรณรงค์เรื่อง “การค้าอย่างเป็นธรรม” หรือ “Fair-Trade” ในอังกฤษ


การรณรงค์เรื่อง "การค้าอย่างเป็นธรรม" เริ่มต้นด้วยพิธีดื่มน้ำชา เครื่องดื่มประจำชาติของคนอังกฤษ โดยมีบริกรหญิงเสิฟน้ำชา พร้อมกับเต้นแท็ปประกอบเพลง Tea for Two ไปด้วยตามจุดรณรงค์ต่างๆ ทั่วประเทศ ความมุ่งหมายของการรณรงค์ครั้งนี้ก็คือ การสร้างโอกาสให้กสิกรในประเทศกำลังพัฒนาได้รับค่าตอบแทนผลผลิตของตนในราคาที่เหนือกว่าราคาตลาด

Comfort Kumeah แรงงานในไร่โกโก้จากประเทศกาน่า บอกว่า การค้าอย่างเป็นธรรมให้ประโยชน์กับชาวไร่โกโก้ในกาน่าเป็นอย่างมาก เพราะทำให้เมล็ดโกโก้ได้ราคาดี ช่วยให้ชาวไร่เหล่านั้นปรับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น สร้างโรงเรียน และจัดสร้างการประปา และการสุขาภิบาลให้กับหมู่บ้านของตนได้

เมื่อสักยี่สิบสามสิบปีก่อนหน้านี้ ชาวไร่โกโก้ในกาน่าไม่มีทางเลือก ต้องขายผลิตผลของตนให้กับรัฐบาลในราคาที่รัฐกำหนด ซึ่งต่ำมาก

ในที่สุดชาวไร่รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมา จากจำนวนสมาชิกเริ่มแรก 1500 คน เวลานี้มีมากเกือบ 45000 คน และนอกจากจะขายเมล็ดโกโก้ในราคาสูง ให้กับบริษัทผู้ผลิตชอคโกแล็ตทั่วโลกแล้ว สหกรณ์แห่งนี้ยังเป็นเจ้าของบริษัท Divine Chocolate ซึ่งผลิตชอคโกแล็ตเองอีกด้วย

Oxfam องค์กรการกุศลที่ทำงานช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก ให้ความร่วมมือกับการรณรงค์เพื่อ Fair-Trade นี้ด้วย โดยมอบใบชาหนึ่งกล่องให้กับผู้ที่บริจาคเงินให้กับ Oxfam

Stuart Foukes เจ้าหน้าที่ของ Oxfam พูดถึงการที่ผู้บริโภคหันมาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นของ Fair-Trade แล้ว จะส่งผลอย่างไรได้บ้าง

เจ้าหน้าที่ของ Oxfam ผู้นี้บอกว่า การซื้อของ Fair-Trade ช่วยให้ประชาชนทั่วไปให้การสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนาได้อย่างจริงจังและโดยตรง ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะเป็น ปลอกหมอน ชอคโกแล็ต ใบชา กาแฟ หรือแม้กระทั่งเหล้าองุ่น โดยอาศัยอำนาจซื้อโน้มน้าววิธีทำการค้าของผู้ขายปลีกและบริษัทธุรกิจ

เป็นการรับประกันว่า ผู้ผลิตจะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เจ้าหน้าที่ของ Oxfam ผู้นี้ย้ำส่งท้ายว่า การรณรงค์ในเรื่องนี้จะต้องก้าวหน้าขยายตัวออกไปให้มากกว่านี้ด้วย


XS
SM
MD
LG