แม้ปีนี้จะเป็นปีขาลหรือปีเสือ แต่บรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระบุว่า จำนวนเสือในป่ากลับเหลือน้อยลงทุกที หลายประเทศในเอเชีย จึงมีโครงการรณรงค์เพื่อรักษาพันธ์เสือเกิดขึ้น ในกัมพูชานั้น มีการนำสุนัขดมกลิ่นคู่หนึ่ง จากอเมริกามาช่วยในการติดตามหาร่องรอยเสือ เพื่อการอนุรักษ์ด้วย
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมประเมินว่า การล่าสัตว์ในเวียดนาม ลาวและกัมพูชา ทำให้จำนวนเสือในประเทศเหล่านั้นลดลงเหลือไม่ถึง 30 ตัวในแต่ละประเทศ ที่เขตป่าสงวน Mondulkiri ทางภาคตะวันออกของกัมพูชา นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้นำสุดยอดผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดรอยจากต่างประเทศเข้ามาช่วย ในการติดตามร่องรอยเสือที่เหลืออยู่ไม่มากนัก
Sadie May และ Scooby Doo คือสุนัขสีดำพันธุ์ลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่ได้รับการฝึกฝนการดมกลิ่นของมูลสัตว์ชนิดต่างๆซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Conservation Canines ของมหาวิทยาลัย Washington ในสหรัฐ คุณ Jennifer Hartman ผู้ฝึกสอน Scooby Doo บอกว่า สุนัขสามารถดมกลิ่นเพื่อเสาะหามูลเสือได้รวดเร็วกว่ามนุษย์มาก
คุณ Hartman บอกว่าเมื่อพบมูลเสือ Scooby Doo ถูกฝึกให้นั่งเฝ้าไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบและเข้ามาเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบว่า เป็นมูลของเสือจริงหรือไม่ จากนั้นจึงวินิจฉัยลงลึกไปถึงสุขภาพความแข็งแรงของเสือตัวนั้น
คุณ Elizabeth Seely ผู้ฝึกฝน Sadie May สุนัขอีกตัวหนึ่งอธิบายว่า มูลสัตว์สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับฮอร์โมน ข้อมูลทางสรีรวิทยา และการติดเชื้อของสัตว์ตัวนั้น ซึ่งหากนำข้อมูลต่างๆ มารวมกัน จะทำให้พอมองเห็นภาพรวมด้านสุขภาพของประชากรเสือในป่าบริเวณนั้นได้
เขตป่าสงวน Mondulkiri นั้นเคยเป็นผืนป่าที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย รวมถึงเสือ แต่การล่าสัตว์ได้ทำให้เสือถูกฆ่าจนเกือบจะสูญพันธุ์ คุณ Lean Kha อดีตทหารของกลุ่มเขมรแดงยอมรับว่า เขาเคยล่าสัตว์มากมายเพื่อนำมาเป็นอาหารและนำไปขาย รวมทั้งเสือ 14 ตัว แต่ปัจจุบันเขาได้กลับตัวกลับใจมาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาป่า เพื่อชดเชยสิ่งที่เคยทำในอดีต
คุณ Lean Kha บอกว่า ในอดีต ป่านี้มีสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ แต่กลับลดจำนวนลงเรื่อยๆ แต่มาถึงตอนนี้ดูเหมือนสัตว์ป่าจะเริ่มกลับมามีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
โครงการ Conservation Canines ร่วมมือกับสำนักงานป่าไม้และองค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม World Wildlife Fund หรือกองทุนสัตว์ป่าโลกเพื่ออนุรักษ์พันธุ์เสือในเอเชีย โดยกองทุนสัตว์ป่าโลกชี้ว่า หากไม่มีมาตรการที่เร่งด่วน ภายในปีขาลครั้งหน้าหรือในอีก 12 ปี อาจไม่มีเสือหลงเหลืออยู่เลยก็เป็นได้
คุณ Nick Cox ผู้ประสานงานโครงการเสือ และป่าเขตแล้งของกองทุนสัตว์ป่าโลกในส่วนของประเทศแถบลุ่มน้ำโขง กล่าวว่า ผืนป่าทางภาคตะวันตกของกัมพูชานั้น เป็นเขตป่าสงวนขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นฟูพันธุ์เสือ
ก่อนหน้านี้ กองทุนสัตว์ป่าโลกได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบางส่วนของเขตป่าสงวนแห่งนี้เพื่อเก็บภาพเสือ แต่ภาพสุดท้ายที่เก็ยได้นั้น ต้องย้อนกลับไปถึงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในที่สุดแล้ว สุนัขดมกลิ่นทั้ง 2 ตัว จะช่วยหาหลักฐานชั้นดีจากเสือเหล่านั้น เพื่อเป็นประโยชน์ในการรักษาพันธุ์สัตว์หายากชนิดนี้ต่อไป