ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ในยุคคอมพิวเตอร์นี้ มนุษย์เราใช้กระดาษกันน้อยลงจริงหรือไม่?


เมื่อโลกย่างเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ ตอนช่วงพุทธทศวรรษที่เริ่มนับจากปีพุทธศักราช 2533 คนจำนวนมากคิดว่าเราจะใช้กระดาษน้อยลง เพราะเอกสารก็ดี และการติดต่อสื่อสารกันก็ดี ล้วนแต่ทำผ่านทางอุปกรณ์อิเลขทรอนิกส์

แต่การณ์มิได้กลับเป็นเช่นนั้น ผู้สื่อข่าว วอยซ ออฟ อเมริกา จูลี แกร็นท์ ( Julie Grant ) มีรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า ทำไมนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ถึงมีความวิตกกังวลเสียเหลือเกิน ในเรื่องกระดาษที่ชาวโลกกำลังใช้กัน ตามสำนักงานและที่บ้าน

คุณอัลเลน เฮิร์ชโกวิตซ์ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ทำงานให้กับองค์กรที่มีชื่อว่า สภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ มาตั้งแต่สมัยที่คนเริ่มส่งอีเมล์กันนั้น ทราบดีว่ายุคคอมพิวเตอร์จะไม่นำไปสู่สังคมที่ไม่ใช้กระดาษ

คุณอัลเลน เฮิร์ชโกวิตซ์กล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ตั้งแต่ตอนแรกๆ เลยทีเดียว แม้แต่ที่ที่ทำงานของผมเสียด้วยซ้ำไป เราเริ่มเห็นคนพิมพ์เอกสาร ออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อน ก็ใช้เครื่องพิมพ์ดีดพิมพ์เอาใหม่ หรือมีการพิมพ์อีเมล์ซึ่งไม่ควรจะพิมพ์ออกมา"

คุณอัลเลน เฮิร์ชโกวิตซ์กล่าวว่า เมื่อคิดโดยเฉลี่ยแล้วชาวอเมริกัน ใช้กระดาษเปลืองกว่าประชาชน ในประเทศอื่นๆ ถึงเจ็ดเท่าตัว และการพิมพ์เอกสาร ออกมาจากคอมพิวเตอร์เป็นแค่จุดเริ่มต้น คุณอัลเลน เฮิร์ชโกวิตซ์มองเห็นมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ความต้องการใช้กระดาษห่อของ กระดาษสำหรับมวนบุหรี่ กระดาษบางเและกระดาษชำระนั้น ก่อให้เกิดความวิบัติมากมายขนาดไหน

คุณอัลเลน เฮิร์ชโกวิตซ์กล่าวไว้ตอนนี้ว่า "มีการตัดโค่นต้นไม้ตามป่าโบราณ ที่มีมาเป็นเวลาหนึ่งหมื่นปีก่อนคริสต์กาล ก่อนยุคโมเสส และก่อนยุคพระศาสดามะหะหมัดนั้น เพื่อนำไปทำกระดาษชำระ ซึ่งเป็นของที่เราใช้สองหรือสามวินาทีแค่นั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูแล้วไม่เข้าท่า "เขากล่าวด้วยว่า การตัดไม้ทำลายป่า ก่อให้เกิดมลพิษเนื่องจากภาวะโลกร้อนนั้น มากกว่ามลพิษที่รถบรรทุก รถประจำทาง เครื่องบินและเรือปล่อยออกมารวมกันเสียอีก

เขากล่าวเสียดสีผลิตภัณฑ์อย่างเช่น กระดาษชำระแบบสามแผ่นซ้อน และนำไปเปรียบเทียบว่าการใช้กระดาษชำระชนิดนั้น เหมือนกับการขับรถยนต์ยี่ห้อฮัมเมอร์ ซึ่งกินน้ำมันเด็ดขาดไปเลย ทางยุโรปและเอเชียนั้น เขาเอากระดาษที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ในการทำกระดาษชำระนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ สื่อต่างชาติกล่าวโจมตีชาวอเมริกัน อย่างย่อยยับเลยว่า การที่พวกเขาใช้กระดาษชำระเปลืองมากๆ นี้ พวกเขากำลังทำให้ป่าต่างๆ ในโลกประสบความวิบัติ

นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของกลุ่มกรีนพีซ ประท้วงบรรษัทคิมเบอร์ลี คล้าก ผู้ผลิตกระดาษทิชชิวมาเป็นเวลาห้าปี ฐานตัดไม้ในป่าโบเรียลที่ประเทศแคนาด และตามป่าอื่นๆ ทั่วโลกเพื่อนำมาผลิตกระดาษทิชชิวยี่ห้อคลีเนกซ์ การณรงค์ประท้วงของกลุ่มกรีนพีซต่อบรรษัท คิมเบอร์ลี คล้ากทำให้ดาวตลกเสียดสีการเมือง ของรายการภาคดึก สตีเฟ่น โคลเบิร์ตรู้สึกปลาดใจ

เขากล่าวไว้ตอนนี้ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มกรีนพีซยุติการประท้วง เพราะบรรษัทคิมเบอร์ลี คล้ากยอมนำเอากระดาษที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระดาษทิชชิว ร้อยละสี่สิบภายในปีหน้า แต่ในขณะที่บรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว แต่ดาวตลกเสียดสีการเมือง สตีเฟ่น โคลเบิร์ต กลับไม่พอใจ เขากล่าวไว้ตอนนี้ว่า บริษัทผลิตกระดาษส่วนมาก ไม่ขัดข้องที่จะนำกระดาษใช้แล้วกลับ มาใช้ใหม่ในการทำผลิตภัณฑ์ของบริษัท คุณแดน ซานโดวาล บรรณาธิการของวารสาร

"Recycling Today" กล่าวว่า กล่องกระดาษแข็ง และกระดาษหนังสือพิมพ์ส่วนมาก ก็ทำจากกระดาษใช้แล้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนกระดาษชำระนั้น ตามปรกติมักจะทำจากกระดาษเก่าๆ สำหรับพิมพ์และเขียนที่ใช้กัน ตามสำนักงานซึ่งนำกลับมาใช้ใหม่ แต่ทว่ากระดาษที่ทิ้งแล้ว ตามสำนักงานนั้นจะเป็นกระดาษหลายชนิดปนเปกัน ดังนั้นจึงไม่สะอาดพอ สำหรับนำกลับมาใช้ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณแดน ซาลโดวาลกล่าวว่า โรงกระดาษจึงต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ สำหรับทำความสะอาดมาใช้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย และในบางครั้ง การตัดไม้ในป่า เสียค่าใช้จ่ายถูกกว่า การใช้วิธีการข้างต้นเสียด้วยซ้ำ แต่คุณแดน ซาลโดวาลกล่าวว่า บริษัทรอบโลกมีแนวโน้ม ที่จะนำกระดาษใช้แล้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่วนนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็เร่งให้บริษัททำเช่นนั้นให้รวดเร็วยิ่งขึ้น พวกเขายังขอร้องให้ผู้บริโภค เลิกซื้อกระดาษชำระแบบที่หนาสามชั้นด้วย

มูลนิธิพาร์คและมูลนิธิเกย์หลอดและโดโรธี ดอนเนลลีย์สนับสนุนรายงาน เกี่ยวกับภาวะแวดล้อมนี้ คุณผู้ฟังจะรับฟังรายงานนี้ได้อีก โดยการแจ้งความประสงค์โดยเข้าไปที่ podcas@environmentreport.org

XS
SM
MD
LG