ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการสร้างงานน้อยไป ทำให้เศรษฐกิจอเมริกัน เสี่ยงอันตรายจริงหรือ?


ที่ปรึกษาระดับสูง ในด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า การที่รัฐบาลกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการสร้างงานน้อยไป ทำให้เศรษฐกิจอเมริกันซึ่งกำลังเริ่มจะฟื้นตัวนั้น เสี่ยงอันตรายมากกว่าการดำเนินงานด้านนั้นมากเกินไปเสียอีก

เวลาเดียวกัน หลังจากพบหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ทำเนียบขาวแล้ว สมาชิกรัฐสภาฝ่ายพรรครีพับลิกันกล่าวโจมตี การเพิ่มงบรายจ่ายของรัฐบาลอเมริกัน และเร่งเร้าท่านประธานาธิบดีให้ลดรายจ่ายของรัฐบาลลง

เวลาเศรษฐกิจชะลอตัวลงนั้น วิธีแก้ไขที่ทำๆ กันมาก็คือเพิ่มงบรายจ่ายของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว และสร้างงานเพิ่มขึ้นจนกระทั่งเศรษฐกิจขยายตัวอีกครั้งหนึ่ง รัฐบาลชุดประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ทำแบบนั้นโดยใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดหนึ่ง ซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนเจ็ดแสนแปดหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปีที่แล้วและรัฐบาลกำลังเสนอร่างรัฐบัญญัติสร้างงานสำหรับปีนี้อีก

แต่ว่าขณะนี้เศรษฐกิจอเมริกันเริ่มฟื้นตัวแล้ว การที่รัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซง เพื่อส่งเสริมการจ้างงานจำเป็นหรือมีประโยชน์หรือไม่?

ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวสนับสนุนร่างรัฐบัญญัติสร้างงาน หลังจากพบหารือกับบรรดาผู้นำของพรรคการเมืองทั้งสองพรรคแล้วไว้ตอนนี้ว่า "เรามีเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวอยู่ในขณะนี้ คือผลิตภาพสูงขึ้นอย่างมากมายมหาศาล ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดี ข่าวร้ายก็คือว่าบริษัทต่างๆ ยังมิได้ดำเนินงานขั้นสุดท้าย คือจ้างคนให้ทำงานเต็มเวลาอย่างแท้จริง"

ก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ลอเร๊นซ์ ซัมเมอร์สกล่าวทำนองเดียวกันกับท่านประธานาธิบดี ทางข่ายโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า ยังจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องส่งเสริมด้านการสร้างงานต่อไป

เขากล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ผมรู้สึกไม่สบายใจ เรื่องที่เราทำน้อยเกินไป มากกว่าเรื่องที่เราทำมากเกินไปในเรื่องการสร้างงานเพิ่มขึ้น เรื่องที่สำคัญอย่างแท้จริง ก็คือเราต้องเริ่มการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก และต้องเริ่มโครงการเกี่ยวโครงสร้างพื้นฐาน โดยทำให้มากขึ้นอย่างรวดเร็วเท่าที่สามารถจะทำได้" จนถึงขณะนี้ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องการสร้างงาน ที่ทั้งสองพรรคสนับสนุนอย่างกว้างขวาง ก็คือการให้การจูงใจในแง่ภาษี แก่ธุรกิจขนาดเล็กเพื่อให้จ้างคนเข้าทำงานมากขึ้น มาตรการอื่นๆ ซึ่งพรรคเดโมแครตสนับสนุน แต่พรรครีพับลิกันคัดค้านอย่างรุนแรง ได้แก่มาตรการอย่างเช่นโครงการงานโยธาเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของอเมริกา

หลังการพบหารือที่ทำเนียบขาวแล้ว ส.ส.อเมริกันแห่งพรรครีพับลิกัน จอห์น โบห์เนอร์ ผู้นำฝ่ายเสียงข้างน้อยเรียกร้องให้ลดรายจ่ายทันที เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลย์ของงบประมาณ ซึ่งกำลังพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ นี้

เขากล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ผมกล่าวเร่งเร้าท่านประธานาธิบดี ว่าถ้าท่านสนใจที่จะตัดทอนรายจ่ายจริงๆ ทำไมเราไม่ทำเช่นนั้นเสียแต่เดี๋ยวนี้? ให้สมาชิกรัฐสภาลงมติเลยว่า จะรับเรื่องการใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายของรัฐบาลนี้หรือไม่?"

ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า ท่านต้องการเหนี่ยวรั้งด้านการคลัง และว่าควรตัดรายจ่ายทันทีที่เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยสมบูรณ์แล้ว และภาวะว่างงานลดลง ท่านประธานาธิบดีเสนอให้ตรึงรายจ่ายภายในประเทศส่วนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป และให้ตั้งคณะกรรมการซึ่งทั้งสองพรรคเข้าร่วมเพื่อร่างข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการแก้ไขความไม่สมดุลย์ด้านการคลังระยะยาว

วุฒิสมาชิกอเมริกันแห่งพรรครีพับลิกัน มิช แมคคอนแนล ผู้นำฝ่ายเสียงข้างน้อยในวุฒิสภากล่าวว่าร่างรัฐบัญญัติ การสร้างงานที่สองฝ่ายสนับสนุนมีวิสัย ที่จะผ่านรัฐสภาได้ถ้าหากฝ่ายเดโมแครตรับข้อเสนอเกี่ยวกับโครงการ ที่ช่วยสร้างงานของฝ่ายรีพับลิกัน อย่างเช่นการส่งเสริมด้านพลังนิวเคลียร์ การขุดเจาะน้ำมันนอกเขตชายฝั่งและเทคโนโลยี ที่ทำให้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด

ถึงแม้จะมีการมองการณ์ เกี่ยวกับเศรษฐกิจอเมริกันในอนาคตไปในทางดี แต่รัฐบาลชุดประธานาธิบดีโอบามาคาดหมายว่า ภาวะคนว่างงานจะอยู่ที่ระดับสูงกว่าเก้าเปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงปีหน้า เมื่อปีพุทธศักราช 2550 ภาวะคนว่างงานอยู่ที่ระดับห้าเปอร์เซ็นต์ การขาดดุลย์ด้านงบประมาณของรัฐบาลอเมริกัน มีจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว คาดว่าปีนี้ก็จะเป็นแบบนั้นอีก



XS
SM
MD
LG