เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์ในออสเตรเลียค้นพบว่า ปลาหมึกยักษ์ในอินโดนีเซียสามารถนำกะลามะพร้าวมาใช้เป็นที่หลบภัย ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมอันสลับซับซ้อน ที่ไม่อาจพบเห็นได้บ่อยนัก โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการใช้กะลามะพร้าวนี้ ยังเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังในการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ ด้วย
นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย ได้บันทึกภาพเจ้าปลาหมึกยักษ์ตัวหนึ่งค่อยๆ ลากกะลามะพร้าวหลายอันที่แตกออกเหลือครึ่งเดียว ขึ้นมาสอดใต้ร่างกายอันใหญ่โต หลังจากนั้นนำกะลามะพร้าว 2 ซีกมาประกบกันเพื่อทำเป็นที่หลบภัย
คุณจูเลี่ยน ฟินน์และคุณมาร์ค นอร์แมนแห่งพิพิธภัณฑ์วิคตอเรียในนครเมลเบิร์น สังเกตุพฤติกรรมประหลาดที่ว่านี้ ของปลาหมึกยักษ์หลายตัวมาตั้งแต่ปี 1998 และจัด่ทำเป็นรายงานการวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยคุณฟินน์บอกว่าเขาประหลาดใจมากและอดขำไม่ได้ กับทีท่าอันน่าขันของเจ้าปลาหมึกยักษ์ ที่พยายามลากกะลามะพร้าวไปทั่วก้นทะเล และแม้โดยปกตินั้น เมื่อพบเจอวัสดุแปลกๆ ปลาหมึกยักษ์ก็มักจะใช้วัสดุนั้นเป็นที่หลบภัยอยู่แล้ว แต่การที่เจ้าปลาหมึกตัวนี้ ถึงกับตระเตรียมเก็บสะสมกะลามะพร้าว แล้วลากเป็นระยะทางไกลเพื่อนำไปสร้างเป็นที่กำบังส่วนตัวในเวลาต่อมานั้น ต้องถือว่าก้าวหน้าไปอีกระดับ และนั่นคือหลักฐานแรกที่แสดงให้เห็นว่า สัตว์จำพวกปลาหมึกสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือได้ ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังชนิดอื่น โดยคุณฟินน์ชี้ว่า สิ่งที่สร้างความแตกต่างก็คือ เจ้าปลาหมึกยักษ์ตัวนี้เก็บกะลามะพร้าว ไว้ใช้ประโยชน์ในเวลาอื่น ไม่ใช่ในทันทีพบเจอกะลานั้น
ทางด้านคุณไซม่อน ร็อบสัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งภาควิชาชีววิทยาเขตร้อน แห่งมหาวิทยาลัย James Cook กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นการเปิดเผยว่าสัตว์โลกต่างๆ นั้นมีพฤติกรรมอันสลับซับซ้อนแค่ไหน และสำหรับปลาหมึกยักษ์นั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาด และมีความสามารถพัฒนาทักษะในการมองเห็นได้ดี