การยึดอาวุธสงครามจากเกาหลีเหนือ บนเครื่องบินสัญชาติจอร์เจียโดยทางการไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม เป็นไปตามมติที่ 1874 ของคณะมนตรีความมั่นคงของ องค์การสหประชาชาติที่ออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 เพื่อมุ่งยับยั้งโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อสะกัดกั้นการขายอาวุธสงครามของเกาหลีเหนือ ซึ่งประมาณว่ามีมูลค่า ปีละราวหนึ่งพันล้านดอลล่าร์ด้วย
เท่าที่ผ่านมาเกาหลีเหนือถูกระบุว่า ละเมิดมติของสหประชาชาติ ด้วยการขายอาวุธสงครามให้กับประเทศต่างๆ ทั้งในอาฟริกา ในเอเซียอย่างเช่นพม่า ในละตินอเมริกา และในตะวันออกกลาง เช่นอิหร่านและซีเรีย และผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ ของมหาวิทยาลัยโซลชี้ว่าการสกัดจับอาวุธสงครามจากเกาหลีเหนือครั้งนี้ อาจส่งผลต่อความพยายามที่จะโน้มน้าวเกาหลีเหนือ ให้กลับคืนสู่โต๊ะเจรจาหกฝ่ายเพื่อยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งของสถาบันกิจการกลาโหมในเกาหลีใต้มองว่าการสกัดกั้น การลำเลียงอาวุธสงครามออกจากเกาหลีเหนือ โดยประเทศต่างๆ ในแต่ละที่เท่าที่ผ่านมานั้น แสดงถึงความตั้งใจของสหรัฐ ที่จะบังคับใช้มติของคณะมนตรีความมั่นคง องค์การสหประชาชาติ ในขณะที่พยายามจะให้เกาหลีเหนือ ยอมกลับคืนสู่โต๊ะเจรจา ไปพร้อมๆ กัน
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจำเริญ ตัณฑ์สมบุญ
