ลิ้งค์เชื่อมต่อ

องค์การอนามัยโลก เปิดเผยแนวนโยบายใหม่ สำหรับการรักษาปละป้องกันเชื้อไวรัส HIV


วันนี้ยังเป็นวันที่ 1 ธันวาคมตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งเป็นวันเอดส์โลก ก่อนหน้านี้ 1 วัน องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้เปิดเผยแนวนโยบายใหม่ สำหรับการรักษาและป้องกันเชื้อไวรัส HIV ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์

ประมาณกันว่าปัจจุบันมีประชากรโลกราว 33 ล้าน 4 แสนคน มีเชื้อไวรัส HIV/AIDS อยู่ในร่างกาย และทุกๆ ปีจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 ล้าน 7 แสนคน ในขณะที่โรคเอดส์เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้ประชากรสตรีวัยเจริญพันธ์ทั่วโลกเสียชีวิตมากที่สุด

แนวนโยบายใหม่ขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO แนะนำผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ให้รีบรับยาต่อต้านไวรัสตั้งแต่ช่วงแรกๆ ซึ่งอาจยังไม่มีการแสดงอาการใดๆ กล่าวคือควรได้รับยาต้านเชื้อไวรัสเมื่อระดับเซลล์ของภูมิคุ้มกันโรคที่เรียกว่า CD4 อยู่ที่ประมาณ 350 โดยคำแนะนำก่อนหน้านี้ของ WHO บอกไว้ว่าผู้ติดเชื้อควรได้รับยาต้านเมื่อระดับ CD4 ลดต่ำลงอยู่ที่ระดับ 200 นะครับ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณ Anthony Fauci ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้ และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ ชี้แจงไว้ว่า มีการรวบรวมหลักฐานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่แสดงให้เห็นว่า ยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้ติดเชื้อในระยะยาว ในขณะที่รายงานหลายชิ้นชี้ว่า การเริ่มให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสแก่สตรีมีครรภ์ตั้งแต่ช่วงที่ตั้งครรภ์ได้ 14 สัปดาห์ และให้ยาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงหยุดให้นมบุตรหรือช่วงประมาณที่เด็กมีอายุได้ 1 ขวบ จะช่วยลดความเสี่ยงของการถ่ายทอดเชื้อไวรัส HIV จากแม่สู่ลูกได้ราว 5% ก่อนหน้านี้ WHO แนะนำว่าควรเริ่มให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสในขณะที่ตั้งครรภ์ได้ 28 สัปดาห์

ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้ และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำลังพัฒนาและปรับเปลี่ยนคำแนะนำใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้ติดเชื้อในช่วงแรกๆ ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของผู้ติดเชื้อได้มากกว่า นอกจากนี้ WHO ยังแนะนำให้ประเทศต่างๆ ลดการใช้ยา Stavudine ซึ่งเป็นยาต้านเชื้อไวรัส HIV ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยให้เหตุผลว่ายาตัวนี้มีผลข้างเคียงในระยะยาว ซึ่งอาจทำให้ผู้ติดเชื้ออ่อนเพลีย และส่งผลร้ายต่อระบบประสาทได้ ในขณะเดียวกัน คุณ Anthony Fauci บอกว่า การลดอัตราการติดเชื้อไวรัส HIV ทั่วโลกให้ได้ผลนั้น ขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบการตรวจเลือดหาผู้ติดเชื้อ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คุณ Fauci ชี้ว่า คำแนะนำที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ การขยายการตรวจเลือดหาผู้ติดเชื้อ เพื่อที่จะได้นำผู้ติดเชื้อเหล่านั้น มารับการรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ระบุว่า การพัฒนาด้านการตรวจเลือด และการรักษาผู้ติดเชื้อตั้งแต่ช่วงแรกๆ นั้นมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส HIV จำนวนมาก แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งอาจชดเชยได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลงในอนาคต สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ตามโรงพยาบาลต่างๆ ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กกำพร้า ที่ผู้ปกครองเสียชีวิตจากโรคเอดส์ก็มีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นกัน




XS
SM
MD
LG