ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัฐบาลเกาหลีเหนือ พยายามหาเงินสำรองเข้าประเทศมากขึ้น โดยการส่งแรงงานไปยังประเทศอื่น


ในขณะที่ประชาคมโลก กำลังเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ สืบเนื่องจากการที่เกาหลีเหนือถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ และอาวุธต่างๆ ส่งผลให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ ต้องพยายามหาเงินสำรองเข้าประเทศมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในทางเลือกที่มีอยู่ไม่มากนักคือการส่งออกแรงงานไปยังประเทศอื่น

ผู้สื่อข่าววีโอเอประจำเกาหลี Young Ran-jeon มีโอกาสเดินทางไปยังเมือง Vladivostok ในรัสเซีย และพูดคุยกับแรงงานชาวเกาหลีเหนือที่ทำงานอยู่ที่นั่น โดยในรายงานชิ้นนี้เราจะใช้ชื่อปลอมเพื่อปกป้องแรงงานเหล่านั้น

ที่เมือง Vladivostok เมืองท่าขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก คนงานผู้ชายตัวเล็กๆชาวเอเชียหลายคน กำลังทำงานก่อสร้างกันอย่างขะมักเขม้น คนงานเหล่านั้นถูกส่งมาโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือเพื่อ ทำงานส่งเงินกลับไปยังบ้านเกิด ที่เวลานี้กำลังประสบปัญหาต้องการเงินสำรองต่างประเทศอย่างมาก

คนงานที่ใช้ชื่อปลอมว่า Kim Dong Gil เล่าว่าเขามาจากเมือง Hamhung เมืองใหญ่อันดับสองของเกาหลีเหนือ เขาอวดว่า คนงานเกาหลีเหนือทำงานก่อสร้างในรัสเซียได้ดีที่สุด ดีกว่าชาติอื่นๆ จากทางเอเชียกลางและเวียดนาม คาดว่าปัจจุบันมีชาวเกาหลีเหนือในเมือง Vladivostok ราว 5,000 คน ซึ่งมีพื้นเพมาจากหลายสาขาอาชีพ แม้กระทั่งหมอ และแม้การมาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศจะเป็นเรื่องกดดันไม่น้อย แต่ชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากต่างยินดีกับวิถีแห่งทุนนิยมนี้

คุณ Han Jong Rok แรงงานอีกผู้หนึ่งบอกว่า ที่เกาหลีเหนือนั้น ทำงานแค่ไหนก็ไม่ได้เงิน แต่ที่รัสเซีย เขาสามารถหาเงินได้มากกว่าถึง 12 เท่าหากยินดีทำงานหนัก และทำงานล่วงเวลา ทุกๆเดือนคนงานเกาหลีเหนือ ต้องส่งเงินกลับไปให้รัฐบาลกรุงเปียงยางคนละ 800 ดอลล่าร์ ส่วนเงินที่เหลือจากนั้นสามารถเก็บไว้เองได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Yonsei ในกรุงโซล Choi Jong-Kun เชื่อว่า ยังมีเหตุผลอื่นนอกจากเงิน ที่ทำให้คนเกาหลีเหนือยินยอมเดินทางออกนอกประเทศ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Choi Jong-Kun ชี้ว่า หากใครก็ตาม สามารถหาเงินกลับประเทศได้มาก เขาจะมีโอกาสหรือความก้าวหน้าทางสังคม มากกว่าชาวเกาหลีเหนือคนอื่นๆ ซึ่งก็คือการยกระดับชนชั้นทางสังคมและการเมืองนั่นเอง

ปัจจุบันเกาหลีเหนือ มีระบบเศรษฐกิจที่โดดเดี่ยว และถูกควบคุมโดยรัฐบาลส่วนกลางมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ทุ่มเงินมหาศาลในด้านการทหารแทนที่จะใช้ในด้านการบริการสาธารณะ และยังปฎิเสธองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ โดยมีเพียงความช่วยเหลือด้านอาหารอย่างจำกัดจากจีน และเกาหลีใต้เท่านั้นที่ช่วยบรรเทาความอดอยากหิวโหยของประชาชน ในขณะที่ปัญหาขาดสารอาหาร และขาดแคลนสาธารณสุขยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ

ตามปกติ เกาหลีเหนือได้เงินตราต่างประเทศ จากบริษัทเกาหลีใต้ที่มาลงทุนในเขตอุตสาหกรรมแคซอง แต่การเปิดพรมแดนเพื่อการค้า หมายถึงการยอมเปิดประตูทางการเมืองด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Choi เชื่อว่ารัฐบาลกรุงเปียงยาง จึงยินดีที่จะส่งแรงงานไปต่างประเทศมากกว่าจะยอมรับผลกระทบของการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Choi บอกว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องแก้ปัญหา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคงไปพร้อมๆ กัน

เชื่อกันว่าปัจจุบันการส่งออกแรงงาน คือแหล่งเงินตราต่างประเทศ ที่สำคัญของเกาหลีเหนือ เมื่อปี 2007 รายงานของสถาบันนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในกรุงโซลประเมินว่า กรุงเปียงยางมีรายได้จากการส่งออกแรงงานอย่างน้อย 40-60 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ซึ่งนอกจากรัสเซียแล้ว ชาวเกาหลีเหนือยังไปทำงานอยู่ในคูเวต สหอาหรับเอมิเรตส์ กาต้าร์ บังกลาเทศ มองโกเลีย และจีนด้วย

สำหรับที่เมือง Vladivostok นั้น คนงานเกาหลีเหนือต้องทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ต้องนอนรวมกันในหอพักที่จัดไว้ และนอกเวลาการทำงานประจำ คนงานเหล่านี้ยังไปหางานพิเศษเพิ่มด้วยการรับจ้างซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ตามบ้านคนรัสเซีย คุณ Kim Chul Woong ช่างเชื่อมชาวเกาหลีเหนือบอกว่า เวลานี้งานก่อสร้างในรัสเซียลดลง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ และยังต้องเผชิญกับการแข่งขันกับแรงงานที่มาจากเอเชียกลาง แต่เขาก็ยังยินดีทำงานหนักต่อไป เพื่อครอบครัวที่เกาหลีเหนือจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงคอมพิวเตอร์สักเครื่อง หรือกีตาร์สักตัวสำหรับเจ้าลูกชายตัวเล็ก


XS
SM
MD
LG