ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ความรุนแรงทางการเมืองในหลายประเทศ ส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวในเอเชีย


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความรุนแรงทางการเมืองในหลายประเทศ ได้ส่งผลเสียมากพอสมควรต่อการท่องเที่ยวในเอเชีย และภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและผู้นำทางอุตสาหกรรมของหลายประเทศเชื่อว่า จะสามารถหาวิธีกู้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ด่านการท่องเที่ยวของเอเชียให้กลับคืนมาได้

ภาพเหตุการณ์การโจมตีที่นครมุมไบ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก เมื่อประกอบกับความรุนแรงทางการเมืองในอินเดีย และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนอินเดียในปีนี้ลดลงไป 8% อีกด้านหนึ่งที่ประเทศไทย การปิดสนามบิน 2 แห่งในกรุงเทพมหานครเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวตกค้างที่สนามบินถึง 350,000 คน ตลอดจนเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา และวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเมืองไทยลดลงถึง 20% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ คุณพรศิริ มโนหาญ ประธานสมาคมการท่องเที่ยวแถบเอเชีย และแปซิฟิกหรือ PATA กล่าวว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงกังวลว่า ความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศไทย และการประท้วงจะนำไปสู่การปิดสนามอีก

ธุรกิจการท่องเที่ยวนับเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ ของหลายประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนราว 3% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ และในบางประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวช่วยจ้างงานได้ถึง 10% แต่ความรุนแรงและความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากหายไป

คุณ John Koldowski ผอ.ฝ่ายการสื่อสารของ PATA ชี้ว่า การถดถอยด้านการท่องเที่ยวที่เป็นผลมาจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย หรือความรุนแรง มักจะฟื้นตัวช้ากว่าภาวะถดถอยที่เกิดจากภัยธรรมชาติต่างๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยการตอบสนองที่ดีจากรัฐบาล และภาคธุรกิจ จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับคืนมาได้ในไม่ช้า เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในเกาะบาหลี อินโดนีเซีย

คุณ Koldowski บอกว่าเกาะบาหลีคือตัวอย่างที่ดี แม้จะต้องใช้ระยะเวลากว่าการท่องเที่ยวของบาหลีจะฟื้นตัวจากเหตุการณ์ระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 200 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบาหลี เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตกหดหายไปถึง 36% เมื่อปี 2003 แต่หลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซีย พยายามปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้าย เพิ่มการรักษาความปลอดภัย และสนับสนุนการท่องเที่ยวมากขึ้น นักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมา และแม้จะเกิดเหตุการณ์วางระเบิดอีกครั้งเมื่อ 3 ปีต่อมา ตลอดจนการระเบิดครั้งล่าสุด ที่กรุงจาการ์ต้าเมื่อเดือนกรกฎาคม การท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย กลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

ทางเอเชียใต้ รัฐบาลศรีลังกาและเนปาล ต่างหวังว่าการสิ้นสุดความขัดแย้งทางการเมืองภายในที่กินเวลานานนับสิบปี จะทำให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจประเทศในแถบเอเชียใต้มากขึ้น

คุณไดลีป มูดาเดนิยะ กรรมการผู้จัดการสำนักงานสนับสนุนการท่องเที่ยวศรีลังกา กล่าวว่ายังมีสถานที่สวยงามบริสุทธิ์อีกมากมายในศรีลังกา ที่รอการค้นพบ ในขณะที่นโยบายเปลี่ยนสนามรบให้เป็นคูหาเลือกตั้งของรัฐบาลเนปาล ก็ดูจะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวเนปาลได้ไม่น้อยเช่นกัน

นักวิเคระห์ธุรกิจท่องเที่ยวเชื่อว่า การท่องเที่ยวในเอเชียจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า แต่สิ่งสำคัญก็คือรัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องหาทางสกัดกั้นไม่ให้เกิดความรุนแรง และหากเกิดขึ้นแล้ว ต้องหาทางระงับความหวาดกลัวของผู้คนโดยเร็วที่สุด


XS
SM
MD
LG