ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รายงานประจำปีเกี่ยวกับการค้า และการพัฒนา ขององค์การ UNCTAD


รายงานประจำปีเกี่ยวกับการค้า และการพัฒนาที่องค์การการค้า และการพัฒนาแห่งสหประชาชาติที่เรียกชื่อย่อว่า อังค์ถัด นำออกเผยแพร่นั้นเรียกร้องให้ออกกฎข้อบังคับตลาดการเงินต่างๆ ของโลกให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และโทษว่าการยกเลิกกฎข้อบังคับ และการดำเนินการแบบเสี่ยงอันตรายมากเกินควรว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้การเงินโลกปั่นป่วน

อังค์ถัดกล่าวว่า วิกฤติการณ์การเงินโลก กระทบกระเทือนตลาด และประเทศทุกประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่กำลังพัฒนา และทำให้ประเทศยากจน เกือบจะไม่มีทางสนองการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการของสหประชาชาติ ที่ต้องการให้ภาวะยากจนลดลงเหลือแค่ครึ่งหนึ่งภายในปีพุทธศักราช 2558 นั้นได้สำเร็จ

เศรษฐกรส่วนมากของอังค์ถัด โทษเรื่องการยกเลิกกฎข้อบังคับ ที่ใช้กับตลาดการเงินว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดวิกฤติการณ์ด้านการเงิน และด้านเศรษฐกิจของโลกครั้งนี้

ขณะนี้ รัฐบาลของประเทศต่างๆ ในโลกรายงานว่า เศรษฐกิจกำลังกระเตื้องดีและภาวะเศรษฐกิจซบเซาอาจยุติลงแล้ว แต่ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัดกล่าวว่า จะต้องฟังข่าวที่ว่าเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องดีขึ้นนี้ อย่างระมัดระวังและออกจะเป็นการเร็วเกินไป ที่จะเฉลิมฉลองเรื่องดังกล่าวกันในตอนนี้

ท่านเลขาธิการอังค์ถัดกล่าวไว้ตอนนี้ว่า "อังค์ถัดรู้สึกว่า การฟื้นตัวอาจเกิดขึ้นชั่วคราว ภาวะเศรษฐกิจซบเซา และการชะลอตัวของเศรษฐกิจรุนแรงมากเหลือเกิน จึงเป็นของแน่ว่าจะต้องมีการฟื้นตัวบ้าง แต่การฟื้นตัวนี้ เป็นการฟื้นตัวจากการที่ระดับราคา ระดับราคาของสินทรัพย์ ราคาของโภคภัณฑ์ และระดับการผลิตที่ลดต่ำลงไปอย่างมาก ถ้าไม่มีปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์มหัพภาคมารองรับ เรายังคงมองไม่เห็นว่าการฟื้นตัวดังกล่าวเป็นการฟื้นตัวที่แท้จริง"

รายงานประจำปีของอังค์ถัดคาดหมายว่า ผลผลิตมวลรวมของโลกจะลดลงไปอีกสองเปอร์เซ็นต์ครึ่งในปีนี้ และว่าผลผลิตมวลรวมของชาติที่เจริญแล้ว จะลดลงราวสี่เปอร์เซ็นต์ ของประเทศที่เศรษฐกิจกำลังอยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ จะลดลงกว่าหกเปอร์เซ็นต์ และของประเทศที่กำลังพัฒนาจะลดจากระดับห้าเปอร์เซ็นต์ เมื่อกลายลงเหลือหนึ่งเปอร์เซ็นต์เศษๆ ในปีนี้

รายงานฉบับนั้นระบุด้วยว่า เศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเจริญ อย่างเช่นจีนและอินเดียก็ชะลอตัวลงอย่างเป็นกอบเป็นกำเมื่อเปรียบเทียบกับของปีที่ผ่านๆ มา

เศรษฐกรอาวุโสของอังค์ถัด ไฮเนอร์ แฟลสเบ็คกล่าว ถึงแม้จะเจ็บปวดรวดร้าวจากวิกฤติการณ์การเงินก็ตาม แต่ดูเหมือนการเก็งกำไรกำลังกลับมาอีก และขับดันให้ราคาของโภคภัณฑ์สูงขึ้นอีกและว่าการคาดหมายว่า ตลาดจะฟื้นตัวคือแรงที่ขับดันการเก็งกำไรดังกล่าว เศรษกรอาวุโส ไฮเนอร์ แฟลสเบ็ค กล่าวด้วยว่า เห็นได้ชัดว่าแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยให้เศรษฐกิจโลกทรงเสถียรภาพขึ้น แต่อังค์ถัดเชื่อว่าการพูดถึงเรื่องการฟื้นตัว ที่จะดำเนินต่อเนื่องเรื่อยไปตามลำพังโดยไม่ต้องมีการคอยกระตุ้นใดๆ ในขณะนี้ดูออกจะเป็นการเร็วเกินไป และรัฐบาลของประเทศต่างๆ ควรดำเนินการในเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังที่สุด

อังค์ถัดพยากรณ์ว่า ผลผลิตมวลรวมของโลกอาจขยายตัวอีกครั้งหนึ่งในปีหน้า แต่ไม่น่าจะขยายตัวเกิน 1.6 เปอร์เซ็นต์


XS
SM
MD
LG