ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สภาพการณ์ในชุมชนคนพื้นเมือง Aborigine ในออสเตรเลีย


ออสเตรเลียมีพลเมืองราวๆ 21 ล้านคน โดยที่ 2.4% เป็นคนพื้นเมือง หรือที่เรียกว่า Aborigine (แอบบอริจีนี่) มีคำกล่าวหากันมานานแล้วว่า สังคมออสเตรเลียกีดกันในเรื่องผิว และเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อย กล่าวคือพวก Aborigine นี่เอง

เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษขององค์การสหประชาชาติ เดินทางไปศึกษาสภาพการณ์ในชุมชน Aborigine ในออสเตรเลีย และให้ความเห็นว่า การกีดกันเรื่องผิวในออสเตรเลียฝังรากไว้ลึกซึ้ง

อาจารย์ James Anaya สอนวิชากฎหมายสิทธิมนุษยชน และทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษในเรื่องชนพื้นเมืองให้กับองค์การสหประชาชาติ นักวิชาการผู้นี้เดินทางไปสืบสวนเรื่องสภาพความเป็นอยู่ของชาว Aborigine ตามคำร้องขอของกลุ่มชนพื้นเมือง กลุ่มศาสนา และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาลที่ทำงานต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในสังคมในออสเตรเลีย เขาใช้เวลาเยี่ยมเยือน และเรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนด้อยโอกาสที่นั่นเป็นเวลา 12 วัน และให้ความเห็นว่า การรังเกียจกีดกันในเรื่องผิวในออสเตรเลียเป็นเรื่องที่มานานแล้ว และนโยบายของรัฐบาลที่พยายามเข้าไปแทรกแซงตามชุมชนเหล่านี้ในเขตปกครองในภาคเหนือ (Northern Territory) ของประเทศ ทำให้การกีดกันและเลือกปฏิบัติดังกล่าวคงอยู่ต่อไป

ตัวอย่างการแทรกแซงของรัฐบาลที่มีการกล่าวถึง คือการส่งทหาร เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และสังคมสงเคราะห์เข้าไปทำงานตามชุมชนเหล่านี้ เมื่อสองปีก่อน จุดมุ่งหมายคือการรณรงค์ต่อต้านการข่มเหงรังแกผู้เยาว์ และการปราบปรามความรุนแรง โดยเฉพาะความรุนแรงในครอบครัว

รัฐบาลสั่งระงับการบังคับใช้กฎหมายห้ามการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย มีการห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล และสิ่งลามกอนาจารในชุมชนดังกล่าว คนพื้นเมืองถูกบังคับให้กันส่วนหนึ่งของเงินประกันสังคม ที่ได้รับจากรัฐบาลไว้สำหรับซื้อหาปัจจัยสำคัญ อย่างเช่น อาหาร

นักต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในสังคมบางรายกล่าวว่า มาตรการข้างต้นละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะนำมาบังคับใช้แต่กับชาว Aborigine เท่านั้น

อาจารย์ James Anaya เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษของสหประชาชาติ ในเรื่องชนพื้นเมือง เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้และว่า มาตรการเหล่านั้นกีดกันคนพื้นเมืองอย่างชัดเจน ละเมิดสิทธิในการตัดสินใจของตนเอง และประทับตราบาปให้แก่ชุมชนที่ถูกตราหน้าอยู่แล้ว

อาจารย์ James Anaya เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนคนแรก ของสหประชาชาติที่ได้ไปเยี่ยมชุมชน Aborigine ในออสเตรเลีย เขาได้กล่าวยกย่องนายกรัฐมนตรี Kevin Rudd ของออสเตรเลียที่ได้กล่าวขอโทษต่อคนพื้นเมืองที่ถูกปฏิบัติต่ออย่างไม่เป็นธรรมในอดีต และแสดงความยินดีที่มีการจัดตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาเป็นตัวแทนคนพื้นเมือง องค์กรที่ว่านี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อนที่จะดำเนินงานได้

การศึกษาวิจัยที่เผยแพร่ผลออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า ช่องว่างระหว่างชาวออสเตรเลียกับชาว Aborigine นั้นห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องการข่มเหงรังแกผู้เยาว์ และความรุนแรงในครอบครัว ชาว Aborigine ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพมากกว่า คนออสเตรเลียโดยทั่วไป รวมทั้งเรื่องการติดยาเสพติด และอายุโดยเฉลี่ยจะสั้นกว่าถึง 17 ปี

นายกรัฐมนตรี Kevin Rudd กล่าวถึงผลสรุปของรายงานฉบับนี้ไว้ว่า เป็นรายงานที่แสดงถึงสภาพการณ์ที่เป็นที่ยอมรับไม่ได้


XS
SM
MD
LG