ความตึงเครียดระหว่างชาวจีนฮั่น กับชาวมุสลิมหวีเก้อ สืบเนื่องจากความรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเขตซินเจียงของประเทศจีน ยังคงยืดเยื้อต่อไป โดย จนท.จีนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวมากกว่า 180 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่น
ในขณะเดียวกัน ชาวจีนฮั่น และชาวมุสลิมหวีเก้อบางคนบอกว่าเหตุการณ์ความรุนแรง ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม ที่เคยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างคนสองเชื้อชาตินี้ ในขณะที่ชาวหวีเก้อหลายคนตำหนิการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ ที่มีมาอย่างยาวนานต่อคนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในเขตซินเจียง และว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่รายงาน
บางส่วนของประชากรราว 2 ล้านคนในเมืองอุรุมฌี กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็นการกระทำของคนจำนวนเล็กน้อย ที่ชอบก่อความวุ่นวาย และไม่ได้ส่งผลต่อทัศนคติของผู้คนในเมืองนี้แต่อย่างใด ชาวมุสลิมหวีเก้อที่เป็นเพื่อนกับชาวจีนฮั่น ก็ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเหมือนที่เคยเป็นมา
คุณหลี่หลี่ หญิงสูงอายุชาวจีนฮั่นเห็นด้วยว่า ความสัมพันธ์ของคนสองเชื้อชาติยังเป็นปกติดี เธอยังคงไปเรียนเต้นรำร่วมกับคนเชื้อชาติอื่นๆ ซึ่งรวมถึงชาวหวีเก้อด้วย เธอเล่าว่า ที่ผ่านมาพอถึงเทศกาลตรุษจีน ชาวจีนฮั่นและชาวหวีเก้อต่างก็เดินทางไปมาหาสู่กัน เหมือนเพื่อนบ้านหรือญาติพี่น้อง แต่ทว่าภาพเหล่านี้ได้เลือนหายไปจากเมืองอุรุมฌี เมื่อทหารจีนหลายพันคนตบเท้าเข้ามาเพื่อรักษาความสงบในเมือง
ชาวมุสลิมหวีเก้อพูดภาษาเตอร์กิค และมีลักษณะคล้ายคนในแถบเอเชียกลาง ชนชาตินี้ครั้งหนึ่งเคยครอบครองเขตซินเจียง ซึ่งอยู่ติดชายแดนตะวันตกของจีน ก่อนที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งจะสนับสนุนให้ชาวจีนฮั่นเข้ามาตั้งรกรากในเขตนี้ ปัจจุบันประชากรชาวหวีเก้อมีอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรซินเจียงทั้งหมด ชาวหวีเก้อกล่าวหาว่าถูกชาวจีนฮั่นเอารัดเอาเปรียบด้านเชื้อชาติ และว่ารัฐบาลจีนพยายามควบคุมการปฏิบัติตามธรรมเนียมศาสนาอิสลาม และคุมเข้มการเดินทางของชาวหวีเก้อ แต่ทางรัฐบาลตอบโต้ว่าชาวหวีเก้อ ได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่างที่ชาวจีนฮั่นไม่ได้ เช่น สามารถมีบุตรได้เกิน 1 คน และได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
ความตึงเครียดเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม เมื่อชาวหวีเก้อเดินขบวนประท้วงเหตุการณ์ที่ชาวจีนฮั่นทำร้ายชาววีเก้อ 2 คนจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนเข้าควบคุมสถานการณ์ และจับกุมตัวชาวหวีเก้อไว้กว่า 1,400 คน เวลานี้ผู้คนในเมืองอุรุมฌี จะเดินทางไปไหนต้องพกบัตรประชาชนไปด้วยเพื่อให้แสดงแก่เจ้าหน้าที่ และหลายคนหวาดกลัวที่จะบอกชื่อของตนเอง เมื่อถูกนักข่าวสัมภาษณ์ ชาวหวีเก้อบางคนเชื่อว่า จำนวนพรรคพวกที่ถูกทางการจับกุมน่าจะมากกว่า 2 พันคน และเชื่อว่ามีชาวหวีเก้อจำนวนมากเสียชีวิตในเหตุการณ์แก้แค้นของชาวจีนฮั่นเมื่อวันที่ 6 และ 7 กรกฎาคม แต่รัฐบาลจีนและสื่อมวลชนพากันปิดข่าว
อย่างไรก็ตาม โต๊ะอิหม่าม โอบุล ฮาชิม ฮักซิมแห่งมัสยิด หลิวเดาวัน หนึ่งในสมาชิกสภาประชาชนจีน ปฎิเสธข่าวที่ว่าชาวหวีเก้อ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมในประเทศจีน โต๊ะอิหม่ามผู้นี้กล่าวว่าการก่อความวุ่นวายนั้นไม่ใช่จิตวิญญาณของศาสนาอิสลาม เพราะอิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติ
แม้ชาวมุสลิมหวีเก้อส่วนใหญ่ จะรู้สึกว่ากองทัพจีนในเมืองอุรุมฌีคือการคุกคาม แต่ประชาชนในเมืองบางคนกลับเห็นว่า การมีทหารนับพันคนลาดตระเวณอยู่ช่วยสร้างความอุ่นใจได้มาก
คุณเยี่ย เฟย เด็กหนุ่มชาวจีนฮั่นซึ่งย้ายมาอยู่ที่เมืองอุรุมฌีเมื่อ 2ปีที่แล้วบอกว่า เมื่อทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในช่วงที่เกิดความวุ่นวาย เขารู้สึกยินดียิ่ง แต่เขาจะไม่มีความสุขเลย หากทหารจีนเหล่านั้น จะปักหลักอยู่ในเมืองเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่า รัฐบาลกรุงปักกิ่งมีแผนให้ทหารประจำการอยู่ที่เมืองอุรุมฌีนี้นานแค่ไหน
