ผลการสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของคนอเมริกัน แสดงให้เห็นว่า คนอเมริกันที่มีอายุสูงขึ้นนั้น ชีวิตก็มีความสุขเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การสำรวจของศูนย์วิจัย Pew ระบุไว้ด้วยว่า แนวโน้มที่ว่านี้ปรากฏให้เห็น แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในภาวะตกต่ำเป็นอย่างมาก การสำรวจครั้งนี้ทำขึ้นในเดือนมีนาคมมานี่เอง โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามเกือบสามพันคน
งานวิจัยชิ้นนี้กล่าวว่า ความสุขนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดกันได้ เหมือนเป็นมรกดตกทอด และว่า สมาชิกพรรครีพับลิกัน หรือพรรคของอดีตประธานาธิบดีจอร์ช บุช นั้น มีความสุขมากกว่าสมาชิกพรรคเดโมแครต และท้ายที่สุด ผู้ชายในวัยทองมีความสุขมากกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน และโดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีอายุสูงกว่าพวก Baby Boomers ซึ่งหมายถึงพวกที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เป็นพวกที่มีความสุขมากกว่า Baby Boomers หมายถึงพวกที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หรือผู้ที่มีอายุระหว่าง 50 ถึง 64 ปี
เหตุผลที่งานวิจัยชิ้นนี้นำมาอธิบายข้อสรุปข้างต้นก็คือ คนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปนั้น ปลดเกษียณงานกันแล้ว และปรับระดับการดำรงชีพ รวมทั้งการใช้จ่ายได้เรียบร้อยแล้วก่อนที่เศรษฐกิจจะตกสะเก็ด ไม่ต้องหลังขดหลังแข็ง ทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวอีกต่อไป เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องจะตกงาน
ผลงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนที่เห็นเงินออมที่สะสมไว้หดหายไป และมีความวิตกกังวลมากเกี่ยวกับการเกษียณงาน เป็นกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 50-64 ปี และแม้ว่ากลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-49 ปี จะถูกภาวะเศรษฐกิจตกต่ำกระทบกระเทือนมากที่สุดก็ตาม แต่ก็พบด้วยว่าคนกลุ่มนี้มองการณ์ในทางดีเกี่ยวกับอนาคตทางการเงินของตน
แต่งานวิจัยชิ้นนี้ ลงท้ายไว้ด้วยว่า ความสุขในวัยทองนั้น มิได้เกิดขึ้นกับคนทุกคน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งท่าที การมองโลกในแง่ดี และการรู้จักจัดการกับปัญหา
และเมื่อดูจากข้อสรุปข้างต้นแล้ว ก็ไม่ทราบว่า จะต้องเพิ่มปัจจัยดังต่อไปนี้ กล่าวคือ ต้องเป็นเพศชาย และเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันเข้าไว้ด้วยหรือไม่
