หลายท่านที่มีลูก คงจะเคยผ่านช่วงเวลาที่พยายามคิดตั้งชื่อสำหรับลูกๆ ว่ายุ่งยากเพียงใด? หลายคนคงอยากให้ลูกมีชื่อเก๋ๆ ตามสมัยนิยม หรือมีชื่อที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนเด็กคนอื่น
แต่รายงานวิจัยชิ้นล่าสุดในสหรัฐเปิดเผยว่าชื่อที่ตั้งตามแฟชั่นนั้น มักจะหมดความนิยมลงอย่างรวดเร็วกว่าชื่อธรรมดาๆ ที่ใช้เวลาสั่งสมความนิยมมายาวนาน
รายงานวิจัยจาก University of Pennsylvania ที่ตีพิมพ์ทางเว็บไซต์ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำรวจชื่อเด็กที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศส และอเมริกา ช่วงตั้งแต่ปี 1900 จนถึงปี 2004 รวม 2,570 ชื่อ พบว่าชื่อที่ได้รับความนิยมสูงมากในยุคหนึ่ง จะเสื่อมความนิยมลงอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่น ชื่อ Charlene ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงคริสทศวรรษ 1930 ถึง 1970 กลับกลายเป็นชื่อที่ไม่ค่อยมีคนใช้ตั้งชื่อลูกหลังจากปี 2000 ในขณะที่ชื่ออย่าง Kristi และ Tricia ที่นิยมตั้งกันมากเมื่อช่วงต้นคริสทศวรรษ 1970 กลับเสื่อมความนิยมลงอย่างรวดเร็วภายในปี 1985 รวมทั้งชื่อ Shaniqua ที่เคยนำสมัยสุดๆ เมื่อประมาณ 10-20 ปีที่แล้ว มาถึงเวลานี้ แทบจะไม่มีพ่อแม่คนไหนตั้งชื่อลูกชื่อนี้เลย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Jonah Berger แห่งภาควิชาการตลาด University of Pennsylvania ผู้จัดทำรายงานชิ้นนี้บอกว่า ชื่อที่จู่ๆ ก็โด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย มีแนวโน้มจะเสื่อมความนิยมลงไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เมื่อเทียบกับชื่อที่สั่งสมความนิยมแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ มาอย่างยาวนาน จนหลายคนอาจจะคิดว่าเชย แต่ก็ยังมีคนใช้อยู่ทุกยุคทุกสมัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดท่านนี้เปรียบเทียบงานวิจัยชิ้นนี้ กับความนิยมตามยุคสมัยในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี แฟชั่น รถยนต์ ไปจนถึงทรงผม แล้วสรุปว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่โด่งดังขึ้นมาตามกระแสนิยม มักจะถูกลืมไปอย่างง่ายดายเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น ในฐานะนักการตลาด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Berger จึงแนะนำว่าสำหรับสินค้าใหม่ๆ นั้น ควรมีการส่งเสริมการตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำนองน้ำหยดลงหิน-ทุกวันหินมันยังกร่อน มากกว่าการโหมกระหน่ำประชาสัมพันธ์ ในช่วงเริ่มต้นเหมือนกับการจุดพลุ ที่แม้จะขึ้นสูง เสียงดังและเห็นได้ไกลจริง แต่ก็จะตกลงมาในเวลาอันรวดเร็ว
