ลิ้งค์เชื่อมต่อ

แผนการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของออสเตรเลีย มีทีท่าว่าจะผ่านรัฐสภาได้ยาก


ในออสเตรเลีย แผนการใหญ่ของรัฐบาล ที่จะดำเนินมาตรการให้มีการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีท่าทางว่าจะผ่านรัฐสภาได้ยาก ขณะที่ฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยมแสดงท่าทีคัดค้านแข็งขันยิ่งขึ้นต่อข้อเสนอนั้น

รัฐบาลนายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์ ต้องการให้รัฐสภาผ่านร่างกฏหมายนี้ ภายในสิ้นเดือนหน้า แต่บรรดาผู้วิพากษ์ตำหนิ ข้อเสนอมาตรการดังกล่าว กล่าวว่า แผนการนี้จะทำให้สูญเสียงานและจะก่อให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในเวลา 20 ปีข้างหน้า

รัฐบาลออสเตรเลียกำลังเสนอแผนการ ระบบการแลกเปลี่ยนหรือชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งจะเป็นระบบที่คลุมขอบเขตกว้างขวางที่สุดในโลก

ตามแผนการนั้น บริษัทต่างๆ จะต้องซื้อใบอนุญาติ สำหรับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทุกๆ ตันที่บริษัทนั้นๆ ก่อให้เกิดขึ้น รัฐบาลออสเตรเลียเสนอระบบดังกล่าว เพื่อเป็นการกระตุ้นทางการเงิน สำหรับบรรดาผู้ที่พยายามลดการปล่อยก๊าซ ที่ยังความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อม ระบบที่ว่านี้จะคลุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 75 % ของบรรดาผู้ก่อให้เกิดก๊าซดังกล่าวรายใหญ่ที่สุดราว 1,000 ราย

รัฐบาลนายกรัฐมนตรี Kevin Rudd แนวกลางเอนซ้าย ต้องการจะให้นำมาตรการนี้ออกมาใช้ในเดือนกรกฎาคมปีหน้า มาตรการนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาซึ่งรัฐบาลไม่ได้ควบคุม และจากสมาชิกวุฒิสภา ฝ่ายที่มุ่งความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ผู้แย้งว่าแผนการนี้ไม่ดำเนินการเพียงพอที่ในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

บรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์ กล่าวว่า การวิจัยล่าสุดแสดงว่า มาตรการดังกล่าวจะยังความเสียหายแก่เศรษฐกิจของออสเตรเลีย และจะทำให้ออสเตรเลียสูญเสียงานหลายหมื่นงาน หากนำมาใช้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

สมาชิกรัฐสภาแนวอนุรักษ์นิยมกล่าวว่า รัฐบาลควรหน่วงเหนี่ยวแผนการ ซึ่งเป็นที่เห็นขัดแย้งกันนี้ไว้ก่อน และรัฐบาลมีงานที่จะต้องปรับแก้ข้อบกพร่องร้ายแรงต่างๆ ของแผนการนั้น

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียมีความตั้งใจมุ่งมั่น ที่จะดำเนินงานให้ร่างกฏหมายนี้ผ่านรัฐสภา โดยถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ

ออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก โดยเฉลี่ยต่อหัวเป็นปริมาณมากที่สุดในโลก รัฐบาลเตือนว่า หากไม่มีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดกวดขัน ออสเตรเลียจะสูญเสียงานและอุตสาหกรรมสำคัญ รวมทั้งในภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว

ความแห้งแล้งอันยาวนาน ประกอบกับไฟไหม้ป่าเมื่อเร็วๆ นี้ และน้ำท่วมหลายพื้นที่ ทำให้นักวิทยาศาสตร์มีเหตุผลที่จะคิดว่า พื้นที่ทวีปออสเตรเลียอันกว้างใหญ่ไพศาล กำลังจะเป็นประเทศหนึ่งที่จะถูกกระทบกระเทือนมากที่สุด จากการที่สภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ยังเคลือบแคลงสงสัย แย้งว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นและน้ำมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นนั้น เป็นส่วนหนึ่งของวงจรธรรมชาติ และไม่แน่ใจว่าความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนั้น เป็นผลจากมลภาวะที่มนุษย์ก่อขึ้นล้วนๆ


XS
SM
MD
LG