ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การล้างมือด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย ให้ผลแตกต่างจากการใช้สบู่ธรรมดาหรือไม่?


ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์บอกว่า การล้างมือบ่อยๆ ครั้งละ 20-30วินาทีหลังจากจาม ไอหรือทำธุระในห้องน้ำ คือวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ทั้งกับตัวคุณเองและคนรอบข้าง

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดระบุว่า การล้างมือด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียนั้น ให้ผลไม่แตกต่างจากการใช้สบู่ธรรมดาเพื่อฆ่าเชื้อโรคแต่อย่างใด และแพทย์บางคนยังกังวลว่าการใช้สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียอย่างแพร่หลาย อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงบางประการได้อีกด้วย

รายงานสำรวจบางชิ้นระบุว่า ปัจจุบัน สบู่ที่วางขายตามร้านค้าทั่วไปนั้น 70% มีส่วนผสมของยาต้านเชื้อแบคทีเรีย เช่นสารไตรโครซาน ประกอบอยู่นะครับ อาจารย์ Allison Aiello ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาแห่ง University of Michigan School of Public Health ได้ตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับสบู่ที่มีส่วนผสมของสารไตรโครซานมากกว่า 20 ชิ้น และจัดทำเป็นรายงานซึ่งตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Clinical Infectious Diseases ในรายงานดังกล่าว อาจารย์ Aiello ระบุว่า สารไตรโครซานสามารถเจาะทะลวงผนังเซลล์ของแบคทีเรีย และฆ่าแบคทีเรียตัวนั้นได้ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า แม้สบู่ผสมสารไตรโครซานจะกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้จริง แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคดีไปกว่าสบู่ธรรมดาแต่อย่างใด เพราะสบู่ธรรมดาก็สามารถกำจัดเชื้อโรคและเชื้อไวรัสต่างๆ รวมถึงไวรัสหวัดหมูที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ได้เช่นกัน

อาจารย์ Aiello บอกว่าสบู่ธรรมดา มีส่วนผสมของสารลดความตึงผิว ที่จะช่วยชะล้างเชื้อแบคทีเรียออกไปในขณะที่เราล้างมือ ผลที่ได้จึงไม่แตกต่างกับการล้างมือด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียเท่าใดนัก ถึงกระนั้นก็ดี เนื่องจากรายงานชิ้นนี้สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง ที่สุขภาพค่อนข้างดี ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้จึงแนะนำให้มีงานวิจัยเพิ่มเติมว่า สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียจะมีประโยชน์มากกว่าสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันโรคบกพร่องหรือไม่

อย่างไรก็ตาม อาจารย์จาก University of Michigan School of Public Health ผู้นี้ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงตามมาได้เช่นกัน เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียนั้นดื้อยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อโรคได้

อาจารย์ Aiello ระบุว่าจากการทดสอบในห้องทดลอง มีหลักฐานชัดเจนว่าเชื้อแบคทีเรียที่รับสารไตรโครซานเข้าไป จะมีความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะมากขึ้น ซึ่งนักวิจัยควรพยายามศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมสบู่ต่างพากันคัดค้านผลการวิจัยดังกล่าวอย่างแข็งขัน

คุณ Brian Sansoni จากสมาคมผู้ผลิตสบู่และผงซักฟอกกล่าวว่า สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียนั้นผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์จริง ทุกวันนี้ผู้คนหลายล้านคนต่างใช้สบู่ดังกล่าวอย่างปลอดภัย และได้ผล ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรใช้สินค้าชนิดนี้ต่อไปด้วยความมั่นใจ ถึงแม้ว่าจนถึงขณะนี้ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐจะยังไม่มีกฎเกณฑ์ควบคุมระดับสารต้านเชื้อแบคทีเรียในสบู่ ตลอดจนกฎเกณฑ์ด้านการตลาดและฉลากยาที่ชัดเจนก็ตาม

แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ในเรื่องประโยชน์ของสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย แต่ทั้งแพทย์และอุตสาหกรรมสบู่ต่างเห็นตรงกันว่า ปัจจุบันชาวอเมริกันยังล้างมือไม่บ่อยพอ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ชนิดไหน โดยรายงานล่าสุดระบุว่าผู้ชายอเมริกัน 1 ใน 3 คน ไม่ได้ล้างมือหลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จแล้ว ในขณะที่ผู้หญิงอเมริกันราว 1 ใน 10 คนเดินออกจากห้องน้ำโดยไม่ได้ล้างมือเสียก่อน ซึ่งนั่นล่ะครับที่แพทย์ระบุว่าเป็นความเสี่ยงต่อการเปิดรับเชื้อโรคอย่างแท้จริง โดยไม่เกี่ยวกับประเภทของสบู่เลย


XS
SM
MD
LG