รายงานการศึกษาชิ้นใหม่ แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของวอลนัท กับมะเร็งทรวงอก และผลร้ายของการรับประทานเนื้อย่างไหม้เกรียมกับมะเร็งตับอ่อน
การศึกษาใหม่พบว่า การรับประทานวอลนัท ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอก ผลวอลนัทซึ่งเป็นผลไม้เปลือกแข็งผลเล็กๆ เนื้อขรุขระสีขาวนวล กรอบมันคล้ายถั่ว มีสารเคมีสามอย่างที่ดูเหมือนว่าจะช่วยต่อต้านมะเร็งทรวงอกได้
แพทย์หญิงอิเลน ฮาร์ทแมน แห่งคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมาร์แชล ในรัฐเวสท์ เวอร์จิเนีย กล่าวว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 สารไฟโทสเตอรอล และสารแอนติออกซิแดนท์ ในผลวอลนัท ล้วนมีผลในการป้องกันหรือหน่วงเหนี่ยวโรคมะเร็ง ดังนั้นเมื่อมีสารทั้งสามอยู่รวมกัน ก็น่าจะมีผลดี จากการศึกษาแยกต่างหากจากการทดลองกับสัตว์ โดยให้ได้รับเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 โดยไม่มีสารประกอบอื่น ปรากฏว่าลดการเป็นมะเร็งลงได้ แต่ไม่มากเท่ากับสารทั้งสามชนิดที่มีอยู่ ในวอลนัท
แพทย์หญิงอิเลน ฮาร์ทแมนกล่าวว่า สำหรับในคนเหล่านั้น ด้วยเหตุที่โรคมะเร็งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น หากสามารถขยายเวลาการพัฒนาของโรคมะเร็งได้ แม้เพียง 15% ก็จะสามารถหน่วงเหนี่ยวการเป็นโรคให้ช้าลงได้ และเราอาจเสียชีวิตด้วยโรคอื่นๆ ก่อนที่โรคมะเร็งจะปรากฏก็ได้
นักวิจัยกล่าวว่า ถ้ารับประทานวอลนัทวันละ 56 กรัม หรือราว 1 กำมือ จะช่วยให้ผลในการป้องกัน หรือหน่วงเหนี่ยวโรคมะเร็งดังกล่าว
และการศึกษาวิจัยที่มหาวิทยาลัยมินเนโซต้าพบว่า เนื้อที่ย่างสุกด้วยไฟแรง อุณหภูมิสูงถึงขนาดไหม้เกรียม อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อน
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณประภัสสร อักขราสา
